ดีแทคอัพเกรดระบบแก้โทร.ไม่ติด ย้ำฟ้องยุติ HSPA ไม่เกี่ยว CDMA
"ดีแทค" หวังประสานรอยร้าว "กสทฯ" นัดเจรจาเดินหน้าเปิด 3G คลื่น 850 MHz เชิงพาณิชย์ มั่นใจภายในปีนี้ได้ทำต่อแน่ ย้ำฟ้องระงับสัญญา "ทรู" โฟกัสเฉพาะบริการ HSPA ไม่กระทบลูกค้า "ซีดีเอ็มเอ" และยืนยันเป็นบริษัทไทยจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นถูกต้องตาม กม. พร้อมให้ตรวจสอบ ทั้งยอมรับลูกค้าแห่ใช้บริการด้านข้อมูลเพิ่มขึ้นจนระบบรับไม่ไหว เร่งอัพเกรดเครือข่าย
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค กล่าวว่า บริษัทในฐานะคู่สัญญาสัมปทานของ บมจ.กสท โทรคมนาคม ที่ผ่านมาได้จ่ายส่วนแบ่งรายได้ และปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาตลอดมา การฟ้องร้องและการทำสัญญาธุรกิจระหว่างกลุ่มทรู และ กสทฯ อาจทำให้ความสัมพันธ์แย่ลง แต่บริษัทไม่มีเจตนาโจมตีใคร เพียงต้องการความชัดเจน ซึ่งผลกระทบของสัญญาดังกล่าวไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย ประกอบกับลูกค้าดีแทคก็รอใช้บริการ HSPA และขณะนี้ศาลปกครองได้รับเอกสารคำร้องแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ "ความสัมพันธ์ระหว่างดีแทคกับ กสทฯ มีทั้งดีและไม่ดีสลับกันตามประสาพาร์ตเนอร์ที่ทำงานร่วมกันมานาน การฟ้องร้องอาจทำให้โดนลดระดับความสัมพันธ์ แต่ก็ยังพร้อมทำงานร่วมกับ กสทฯ ต่อไป ที่ผ่านมาก็รับเงื่อนไขของ กสทฯ มาตลอด กรณีขออนุมัติเปิดบริการ HSPA ถ้ายังไม่ได้รับการตอบรับก็อาจฟ้องกลับ แต่วิธีนี้จะเป็นหนทางสุดท้ายที่จะทำ" ทั้งนี้ ดีแทคสนับสนุนการจัดตั้งโครงสร้างด้านกฎระเบียบที่มีความโปร่งใส เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม เพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้บริโภคและประเทศไทย สาเหตุที่ฟ้องเพราะเชื่อว่าสัญญาระหว่าง กสทฯ และกลุ่มทรู ไม่สอดคล้องกับหลักการแข่งขันทางธุรกิจ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ โดยการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา ก็เพื่อให้มีการพิจารณาถึงความถูกต้องตามกฎหมายของสัญญาดังกล่าว และเพื่อมีคำสั่งให้ กสทฯ ระงับการดำเนินการทางธุรกิจระหว่าง กสทฯ และทรู ซึ่งก่อให้เกิดการผูกขาดในตลาดบริการ HSPA ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนจากราคาและคุณภาพที่ไม่เป็นธรรม ทั้งไม่สอดคล้องกับ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ มาตรา 46 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ นายจอนกล่าวด้วยว่า ในแง่การทำงานร่วมกันกับ กสทฯ บริษัทยังเน้นวิธีเจรจาเพื่อแก้ปัญหาระหว่างกันต่อไป โดยจะพยายามผลักดันให้ดีแทค และ กสทฯ นัดหารือเกี่ยวกับการขออนุมัติเพื่อเปิดบริการ HSPA เชิงพาณิชย์ภายในสัปดาห์นี้ และมั่นใจว่าภายในปีนี้จะเปิดให้บริการได้ เนื่องจากไม่เห็นข้อเสียหากจะอนุญาตให้ดีแทคเปิดบริการ เพราะ กสทฯ จะมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ดีแทคลงทุนไปแล้วกว่า 350 ล้านบาท ในการดำเนินการปรับปรุงโครงข่ายและขยายพื้นที่บริการ HSPA สำหรับกรณีที่คณะกรรมาธิการสื่อสารโทรคมนาคมมีการตรวจสอบการถือหุ้นของบริษัทนั้น ตนขอยืนยันว่าดีแทคเป็นบริษัทไทยที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อย่างถูกต้องตามกฎหมายไทยทุกประการ ปัจจุบันมีพนักงานเป็นคนไทยมากกว่า 7,000 คน ส่วนปัญหาด้านการใช้บริการที่มีลูกค้าร้องเรียนเรื่องโทร.ติดยาก และการรับส่งข้อความสั้น (SMS) ล่าช้านั้น นายจอนกล่าวว่า เกิดจากประเทศไทยมีการส่งข้อมูลผ่านระบบโทรศัพท์มือถือเพิ่มมากขึ้น ขณะที่เครือข่ายระบบ 2G เดิมไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับข้อมูลจำนวนมากจึงเกิดปัญหาดังกล่าว โดยดีแทคกำลังดำเนินการแก้ไขด้วยการอัพเกรดเครือข่าย 2G ให้ใช้ได้ดีขึ้นและจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ แต่ทางออกแท้จริงของการแก้ปัญหานี้ คือการอัพเกรดระบบทั้งหมดให้เป็น 3G นอกจากนี้ ดีแทคยังรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2554 พบว่า มีรายได้รวม 19.7 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 12% เทียบปีที่แล้วจากการเติบโตของบริการเสริมและการจำหน่ายสมาร์ทโฟน และมีกำไรสุทธิ 3.3 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36% มีกระแสเงินสด 6.9 พันล้านบาท มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 725,000 ราย ทำให้ลูกค้ารวมมีถึง 22.3 ล้านราย http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1304479253&grpid=00&catid=06 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น