ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน"

ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ดีแทคอัพเกรดระบบแก้โทร.ไม่ติด ย้ำฟ้องยุติ HSPA ไม่เกี่ยว CDMA

ดีแทคอัพเกรดระบบแก้โทร.ไม่ติด ย้ำฟ้องยุติ HSPA ไม่เกี่ยว CDMA

Share21



"ดีแทค" หวังประสานรอยร้าว "กสทฯ" นัดเจรจาเดินหน้าเปิด 3G คลื่น 850 MHz เชิงพาณิชย์ มั่นใจภายในปีนี้ได้ทำต่อแน่ ย้ำฟ้องระงับสัญญา "ทรู" โฟกัสเฉพาะบริการ HSPA ไม่กระทบลูกค้า "ซีดีเอ็มเอ" และยืนยันเป็นบริษัทไทยจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นถูกต้องตาม กม. พร้อมให้ตรวจสอบ ทั้งยอมรับลูกค้าแห่ใช้บริการด้านข้อมูลเพิ่มขึ้นจนระบบรับไม่ไหว เร่งอัพเกรดเครือข่าย

 

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค กล่าวว่า บริษัทในฐานะคู่สัญญาสัมปทานของ บมจ.กสท โทรคมนาคม ที่ผ่านมาได้จ่ายส่วนแบ่งรายได้ และปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาตลอดมา การฟ้องร้องและการทำสัญญาธุรกิจระหว่างกลุ่มทรู และ กสทฯ อาจทำให้ความสัมพันธ์แย่ลง แต่บริษัทไม่มีเจตนาโจมตีใคร เพียงต้องการความชัดเจน ซึ่งผลกระทบของสัญญาดังกล่าวไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย ประกอบกับลูกค้าดีแทคก็รอใช้บริการ HSPA และขณะนี้ศาลปกครองได้รับเอกสารคำร้องแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

"ความสัมพันธ์ระหว่างดีแทคกับ กสทฯ มีทั้งดีและไม่ดีสลับกันตามประสาพาร์ตเนอร์ที่ทำงานร่วมกันมานาน การฟ้องร้องอาจทำให้โดนลดระดับความสัมพันธ์ แต่ก็ยังพร้อมทำงานร่วมกับ กสทฯ ต่อไป ที่ผ่านมาก็รับเงื่อนไขของ กสทฯ มาตลอด กรณีขออนุมัติเปิดบริการ HSPA ถ้ายังไม่ได้รับการตอบรับก็อาจฟ้องกลับ แต่วิธีนี้จะเป็นหนทางสุดท้ายที่จะทำ"

ทั้งนี้ ดีแทคสนับสนุนการจัดตั้งโครงสร้างด้านกฎระเบียบที่มีความโปร่งใส เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม เพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้บริโภคและประเทศไทย สาเหตุที่ฟ้องเพราะเชื่อว่าสัญญาระหว่าง กสทฯ และกลุ่มทรู ไม่สอดคล้องกับหลักการแข่งขันทางธุรกิจ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ โดยการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา ก็เพื่อให้มีการพิจารณาถึงความถูกต้องตามกฎหมายของสัญญาดังกล่าว

และเพื่อมีคำสั่งให้ กสทฯ ระงับการดำเนินการทางธุรกิจระหว่าง กสทฯ และทรู ซึ่งก่อให้เกิดการผูกขาดในตลาดบริการ HSPA ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนจากราคาและคุณภาพที่ไม่เป็นธรรม ทั้งไม่สอดคล้องกับ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ มาตรา 46 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ 
"เราเชื่อว่าสาธารณชนจะได้ประโยชน์จากการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งให้ กสทฯ ระงับการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการเอชเอสพีเอชั่วคราว ซึ่งหากศาลสั่งระงับบริการก็จะไม่กระทบต่อลูกค้าที่ใช้บริการซีดีเอ็มเอแต่อย่างใด"

นายจอนกล่าวด้วยว่า ในแง่การทำงานร่วมกันกับ กสทฯ บริษัทยังเน้นวิธีเจรจาเพื่อแก้ปัญหาระหว่างกันต่อไป โดยจะพยายามผลักดันให้ดีแทค และ กสทฯ นัดหารือเกี่ยวกับการขออนุมัติเพื่อเปิดบริการ HSPA เชิงพาณิชย์ภายในสัปดาห์นี้ และมั่นใจว่าภายในปีนี้จะเปิดให้บริการได้ เนื่องจากไม่เห็นข้อเสียหากจะอนุญาตให้ดีแทคเปิดบริการ เพราะ กสทฯ จะมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ดีแทคลงทุนไปแล้วกว่า 350 ล้านบาท ในการดำเนินการปรับปรุงโครงข่ายและขยายพื้นที่บริการ HSPA

สำหรับกรณีที่คณะกรรมาธิการสื่อสารโทรคมนาคมมีการตรวจสอบการถือหุ้นของบริษัทนั้น ตนขอยืนยันว่าดีแทคเป็นบริษัทไทยที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อย่างถูกต้องตามกฎหมายไทยทุกประการ ปัจจุบันมีพนักงานเป็นคนไทยมากกว่า 7,000 คน 

ส่วนปัญหาด้านการใช้บริการที่มีลูกค้าร้องเรียนเรื่องโทร.ติดยาก และการรับส่งข้อความสั้น (SMS) ล่าช้านั้น นายจอนกล่าวว่า เกิดจากประเทศไทยมีการส่งข้อมูลผ่านระบบโทรศัพท์มือถือเพิ่มมากขึ้น ขณะที่เครือข่ายระบบ 2G เดิมไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับข้อมูลจำนวนมากจึงเกิดปัญหาดังกล่าว โดยดีแทคกำลังดำเนินการแก้ไขด้วยการอัพเกรดเครือข่าย 2G ให้ใช้ได้ดีขึ้นและจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ แต่ทางออกแท้จริงของการแก้ปัญหานี้ คือการอัพเกรดระบบทั้งหมดให้เป็น 3G

นอกจากนี้ ดีแทคยังรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2554 พบว่า มีรายได้รวม 19.7 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 12% เทียบปีที่แล้วจากการเติบโตของบริการเสริมและการจำหน่ายสมาร์ทโฟน และมีกำไรสุทธิ 3.3 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36% มีกระแสเงินสด 6.9 พันล้านบาท มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 725,000 ราย ทำให้ลูกค้ารวมมีถึง 22.3 ล้านราย


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1304479253&grpid=00&catid=06



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น