ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน"

ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

The Urban Research Plaza’s 9th Forum March 3-4 2011, Abstract Deadline Jan 15

Call for Papers
The Urban Research Plaza's 9th Forum
March 3-4 2011, Abstract Deadline Jan 15 Theme
Arts Management – City Management:
Models for Sustainable City Renewal and Cultural Continuity
The Faculty of Fine and Applied Arts at Chulalongkorn University, Bangkok is calling for papers,
visual presentations, and workshops for our Ninth Urban Culture Research Forum.
The forum aims to encourage researchers, artists, and those involved in urban planning to seek
cross-disciplinary and cross-cultural practices aimed at fostering the development of vibrant, livable
cities and promoting cultural continuity. Visual presentations, workshops, and paper presentations
are welcome to address one or more of the following issues:
• What is the role of the arts in urban planning and community development?
• How can the arts contribute to the creative re-imagining and revitalization of the city?
• What are the good practices of sustainable city renewal?
• What role can artists play in shaping the landscape and soundscape of the city?
• How can the arts contribute to building social cohesion and bridging cultural divisions?
• How can the art communities contribute to cultural continuity?
• How can the arts stimulate participatory citizenship and social interaction?
• What role(s) can culture and the arts play in stimulating economic development?
• How can cities provide spaces for alternative and experimental art forms and activities?
• What are good practices in a city's administration of the arts?
About the URP
When the Urban Research Plaza (URP) was founded in 2001 it was originally named The Urban
Culture Research Center (UCRC) and later changed to its current name in 2006. It is an academic
collaboration and exchange program between Osaka City University, Japan and Chulalongkorn
University's Faculty of Fine and Applied Arts, Thailand that focuses on topics related to urban
culture in the areas of artistic expression, management, cultural preservation, documentation, and
education.
Deadline for sending abstracts is the 15th of January 2011
Please send abstracts (under 250 words) or visual presentation/workshop proposals (500 words)
and a brief biography (100 words) to the forum staff at: urpcu@yahoo.com.
Authors of selected works will be notified by the 4th of February 2011
Full paper submissions are due on the 15th of April 2011
Papers should be approximately 5000 words long, but not more than 7000 including the abstract,
references and keywords (max 6). Images and figures are only accepted when they are
necessary. Their captions need to be placed at the desired location in the paper, but sent
separately. Low-resolution images may be located in the text and better quality originals sent
independently for ease in emailing and high quality print when published.
Selected papers will be published in the forum's proceedings. Each attendee will be allotted 15
minutes for their presentation followed by a 5-minute Q & A session. Selected workshops may
commence 7 days before the symposium and will culminate in an exhibition, video gallery or
performance scheduled during the forum.


วันพุธที่ 2 – วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 ณ มหาวิทยาลัยเกริก

มหาวิทยาลัยเกริก กำหนดจัดงานเกริกวิชาการ 53

 

ระหว่างวันพุธที่ 2 – วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 ณ มหาวิทยาลัยเกริก

 

จึงขอเรียนเชิญคณาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป

 

เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอผลงานและ/หรือส่งบทความวิจัย เพื่อคัดเลือกนำเสนอผลงานในงานวิชาการดังกล่าว 

 

โดยผู้สนใจสามารถส่งบทความได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 นี้

 

ที่  Email : research_kru@hotmail.co.th อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน (ศูนย์ส่งเสริมวิจัยและผลิตตำรา)

 

หรือ สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2970-5820 ต่อ 402



วันที่ 3-4 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 08.00 น.- 16.00น. ห้องประชุม 105 อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมการนำเสนอผลงานวิจัย และเข้าร่วมประชุมวิชาการนานาชาติ ครั้งที่ 9 หัวข้อ "Arts Management-City Management: Models for Sustainable City Renewal and Cultural Continuity" ระหว่างวันที่ 3-4 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 08.00 น.- 16.00น. ห้องประชุม 105 อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดโดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ มหาวิทยาลัย Osaka City University สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ Urban Research Plaza คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทร.0-2218-4582 ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.cujucr.com/downloads/URP-Call%20for%20Papers%202011-Dec5-Akinear.pdf

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ประชาไทแถลง ศอฉ. ปิดเว็บ เสียหาย 5 ล้าน กระทบเสรีภาพสื่อและประชาชน

ประชาไทแถลง ศอฉ. ปิดเว็บ เสียหาย 5 ล้าน กระทบเสรีภาพสื่อและประชาชน

(22 ธ.ค.53) ที่สำนักงานประชาไท น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไท (prachatai.com) และนายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข บรรณาธิการบริหารเว็บไซต์ประชาไท ร่วมกันแถลงข่าวความเสียหาย 258 วันของการพยายามปิดกั้นข่าวสารของเว็บประชาไท

จีรนุช กล่าวว่า ประชาไทถูกปิดกั้นโดยคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในวันที่ 8 เม.ย.หรือหลังรัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 1 วัน หากไม่นับว่าเป็นการปิดกั้นเสรีภาพการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน มองในแง่มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับเว็บจะพบว่าจนถึงวันยก เลิกพ.ร.ก.มีความเสียหายเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท คำนวณตามการฟ้องร้องค่าเสียหาย (วันละ 20,000 บาท) ซึ่งประชาได้ยื่นฟ้องรัฐบาลและศอฉ.ไปแล้ว แต่ศาลชั้นต้นยกฟ้องระบุว่าเป็นการปิดกั้นเว็บไซต์อำนาจของนายกฯ และรองนายกฯ ตามพ.ร.ก. ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ นอกจากนี้ยังเสียหายต่อชื่อเสียงและสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ ทั้งในส่วนของเอสเอ็มเอสข่าวและการเปิดรับโฆษณาซึ่งทางเว็บเพิ่งเริ่มต้น โมเดลธุรกิจเหล่านี้เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองให้ยั่งยืน

จีรนุช ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ที่ผ่านมา ศอฉ.มีคำสั่งปิดกั้นเว็บต่างๆ ในลักษณะตามอำเภอใจ จากงานวิจัยของโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw.or.th) ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสต์ศึกษาพบว่า ศอฉ.มีคำสั่งถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อปิดเว็บไซต์จำนวนหลายหมื่นยู อาร์แอล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปิดกั้นเนื้อหาที่นำเสนอรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ช่วงการสลายการชุมนุม ซึ่งถือเป็น "การปิดหูปิดตาประชาชน" และยังรวมไปถึงบางเว็บที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว อยากฝากถึงทั้งรัฐบาลและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตว่าควรยุติการปิดกั้นเว็บ ทั้งหมดตามคำสั่ง ศอฉ.โดยทันที เนื่องจากไม่มีอำนาจตามกกฎหมายใดรองรับ

ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไท ยังกล่าวถึงข้อกังวลว่าแม้จะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่สื่อสารมวลชนและสังคมจะต้องตระหนักและร่วมกันเฝ้าตรวจสอบการแปลงโฉมจาก ศอฉ. มาเป็นศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ (ศอส.) โดยอาศัยการบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แสดงว่าอำนาจพิเศษตามกฎหมายซึ่งมีลักษณะพิเศษที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพและ ความมั่นคงของพลเมืองยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ขอบเขตอำนาจของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯไม่ได้ให้อำนาจในการปิดกั้นสื่อ

ชูวัส กล่าวว่า คำสั่งปิดกั้นเว็บไซต์ไม่เพียงแต่ทำความเสียหายให้ประชาไท แต่ยังลิดรอนเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งยังทำลายพัฒนาการของสื่อสารมวลชนไทยด้วย การแถลงข่าวในวันนี้ประชาไทเป็นแค่หนูลองยาที่ออกมาพูด อยากให้เว็บไซต์ต่างๆ ที่โดนปิดกั้น ได้รับผลกระทบจากจากการสั่งปิดออกมา อย่างน้อยก็ทำให้สังคมรู้ว่าเสรีภาพที่เขาพรากไป 8 เดือนมันมีค่ามหาศาลขนาดไหน

บก.บห.เว็บไซต์ประชาไทกล่าวว่า รัฐไทยควรสรุปบทเรียนได้แล้วว่า ประการแรก พรก.ฉุกเฉิน นอกจากทำความเสียหายแล้ว ไม่สามารถปิดกั้นสื่อได้เลย สื่อหลักคุณก็ไม่กล้าปิด สื่อใหม่ๆ ก็ปิดไม่ได้ โดยเทคโนโลยีมันไม่ยอมให้คุณปิด  ประการที่สอง พ.ร.ก.ฉุกเฉินและการปิดกั้นของ ศอฉ. ทำให้ความขัดแย้งในสังคมไทยขยายตัว เนื่องจากข่าวสารจำนวนมากถูกซุกอยู่ใต้ดิน แม้ในแวดวงนักวิชาการเองน้อยคนที่จะสืบค้นข้อมูลอย่างจริงจังเพื่อการอ้าง อิง ถกเถียงกันทางวิชาการ ความจริงอีกด้านของคนที่ได้รับผลกระทบไม่ได้ถูกนำมาพูดคุย เมื่อคนไม่ได้พูดมันก็สะสมเป็นความกดทับภายใน รอวันระเบิด

"ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น และมีนัยยะสำคัญมาจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยตรง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นปัญหาของความมั่นคงและความสงบสุขของรัฐ และถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง" ชูวัสกล่าว

ทั้งนี้ ผอ.ประชาไทระบุว่า เว็บประชาไทเผชิญกับการปิดกั้นโดยต่อเนื่อง ในการปิดกั้นทุกช่องทางทางเว็บข่าว เว็บบอร์ด ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ยูทิวป์ สำหรับเว็บไซต์ข่าวเปลี่ยนชื่อเว็บไปทั้งหมด 8 ครั้ง เว็บบอร์ดเปลี่ยนชื่อ 3 ครั้ง ก่อนที่ประชาไทจะตัดสินใจปิดเวบบอร์ดไปเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ความพยายามปิดกั้นกระทำทั้งโดยการปิดกั้นชื่อเว็บ, การปิดกั้นไอพีแอดเดรส, การปิดกั้นที่เซิร์ฟเวอร์ เป็นเหตุให้ประชาไทต้องย้ายไปใช้บริการเซิร์ฟเวอร์ การจดทะเบียนชื่อเว็บและอื่นๆ เกือบทั้งหมดในต่างประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันในการที่เว็บจะสามารถเข้าถึงได้ สำหรับยอดผู้เข้าชมนั้น หลังจากถูกปิดกั้นทำให้จำนวนผู้เข้าชมลดลงถึง 2 ใน 3 จากสถานการณ์ปกติ

อนึ่ง วานนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 4 จังหวัดที่เหลือ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม พร้อมตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ขึ้นมาทดแทนศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่ต้องยุบเลิกไปโดยสภาพ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้น เมื่อลองเข้าเว็บประชาไทด้วยยูอาร์แอล www.prachatai.com ด้วยอินเทอร์เน็ตทรูและทีโอที พบว่าไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยขึ้นข้อความว่าเป็นการปิดกั้นตามคำสั่งของ ศอฉ. ขณะที่เมื่อเข้าด้วยอินเทอร์เน็ต 3BB สามารถเข้าถึงได้


http://www.prachatai3.info/journal/2010/12/32390

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สธ.เพิ่มยาสมุนไพรใหม่อีก 61 ตัวในบัญชียาหลักแห่งชาติ เป็นของขวัญปีใหม่ประชาชนปี 54‏


กระทรวง สาธารณสุข เพิ่มยาสมุนไพรใหม่อีก 61 ตัวในบัญชียาหลักแห่งชาติ เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนไทยให้มีทางเลือกในการบำบัดรักษาโรคได้มาก ขึ้นกว่าในปัจจุบัน ลดสัดส่วนยาจากต่างประเทศ ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพลดลงได้
นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาภูมิปัญญาไทยโดยในส่วนของกระทรวง สาธารณสุขได้พยายามเพิ่มสัดส่วนการใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรคต่างๆ แทนการนำเข้ายาแผนปัจจุบันจากต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2542-2549 ได้ทำบัญชียาจากสมุนไพรเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติ ให้แพทย์สั่งใช้รักษาโรคไปแล้ว 19 รายการ ล่าสุดคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ ได้คัดเลือกยาสมุนไพรและยาแผนไทย เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มอีก 61 รายการ โดยจะเสนอให้พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ลงนาม คาดจะสามารถใช้ได้ในเดือนมกราคม 2554 ถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่มอบให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ที่จะมีทางเลือกในการบำบัดรักษาโรคได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับรายการยาสมุนไพร เพิ่มใหม่นี้ ประกอบด้วย ยาสมุนไพรที่เป็นยาแผนไทย หรือยาแผนโบราณ 23 รายการ อาทิ ยาหอมอินทจักร์ ยาหอมทิพโอสถ ใช้แก้ลม วิงเวียน ,ยาประสะกระเพรา ยาวิสัมพยาใหญ่ ยามันทธาตุ บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ,ยาตรีหอม แก้เด็กท้องผูก ระบายพิษไข้ ,ยาธรณีสันฑะฆาต แก้ท้องผูก และยาไฟประลัยกัลป์ขับน้ำคาวปลา นอกจากนี้ยังมีเภสัชตำรับโรงพยาบาลที่โรงพยาบาลปรุงใช้เป็นตำรับยาแผนไทย หรือยาแผนโบราณ จำนวน 23 รายการ อาทิ ยาหอมแก้ลมวิงเวียน ,ยาธาตุอบเชย ขับลม บรรเทาท้องอืด ,ยาผสมเพชรสังฆาต บรรเทาริดสีดวงทวารหนัก และยาจากสมุนไพรเดี่ยว 15 รายการ อาทิ ยากล้วย รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ยามะขามแขกบรรเทาอาการท้องผูก ยาทิงเจอร์ทองพันชั่ง ทิงเจอร์พลู ยาเปลือกมังคุดใช้รักษาโรคทางผิวหนัง ยารางจืดถอนพิษเบื่อเมา และยาหญ้าดอกขาวใช้เพื่อลดความอยากบุหรี่ ซึ่งในปี 2554 ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มการใช้ยาแผนไทยและสมุนไพรในสถานบริการระดับต่างๆให้ได้ ร้อยละ 2 โรงพยาบาลทั่วไปร้อยละ 5 ส่วนโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้ได้ร้อยละ 10
 
สธ.เพิ่มยาสมุนไพรใหม่อีก 61 ตัวในบัญชียาหลักแห่งชาติ เป็นของขวัญปีใหม่ประชาชนปี’54

  •                 กระทรวงสาธารณสุข มอบของขวัญปีใหม่ให้คนไทย นำยาสมุนไพรใหม่ เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มอีก 61 รายการ ครอบคลุมการรักษาทั้งอาการไข้ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคทางนรีเวช โรคทางเดินหายใจ อาการปวดเมื่อย ถอนพิษเบื่อเมา เลิกสูบบุหรี่  คาดมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม  2554 นี้


    ดร.พรรณ สิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลัง เป็นประธานเปิดงานมหกรรม “ขอนแก่นสุขภาพดี บนวิถีไทย” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2554 และมอบใบประกาศเกียรติคุณ แก่บุคคล และสถานบริการที่มีผลงานดีเด่นด้านการแพทย์แผนไทย ที่โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น เมื่อเช้าวันนี้(24 ธันวาคม 2553)ว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการส่งเสริมและพัฒนาภูมิปัญญาไทย โดยส่งเสริมให้มีการใช้ยาจากสมุนไพรในสถานบริการสาธารณสุขในการรักษากลุ่ม โรคต่างๆ ซึ่งร้อยละ 70 ที่สามารถใช้ยาสมุนไพรหรือการแพทย์แผนไทยรักษาได้ โดยตั้งแต่ปี 2542-2549 ได้จัดทำบัญชียาจากสมุนไพรเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติ ให้แพทย์สั่งใช้รักษาโรคแล้ว 19 รายการ

              ดร.พรรณสิริกล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เร่งพัฒนายาไทยและสมุนไพรที่มีผลการศึกษาวิจัยยืนยันสรรพคุณทางวิชาการ เพื่อบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติให้มากขึ้น ล่าสุดนี้คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติได้พิจารณาคัดเลือกยา สมุนไพรและยาแผนไทย เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มอีก 61 รายการ โดยจะเสนอให้พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ลงนาม คาดว่าจะสามารถใช้ในเดือนมกราคม 2554 มอบเป็นของขวัญปีใหม่ประชาชนไทย ให้ได้ใช้บำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยได้กว้างขวางยิ่งขึ้น  

              สำหรับรายการยาสมุนไพร ที่จะประกาศในบัญชียาหลักแห่งชาติในปี 2554 จำนวน 61 รายการ ประกอบด้วย ยาสมุนไพรที่เป็นยาแผนไทย หรือยาแผนโบราณจำนวน 23 รายการ เช่น ยาหอมอินทจักร์ ยาหอมทิพโอสถ.ใช้แก้ลม วิงเวียนยาประสะกระเพรา ยาวิสัมพยาใหญ่ ยามันทธาตุบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ยาตรีหอมแก้เด็กท้องผูก ระบายพิษไข้ยาธรณีสันฑะฆาตแก้ท้องผูก ยาไฟประลัยกัลป์ขับน้ำคาวปลา        

              ยาที่เป็นเภสัชตำรับโรงพยาบาลที่โรงพยาบาลปรุงใช้เป็นตำรับยาแผนไทยหรือยาแผนโบราณ จำนวน 23 รายการ เช่น ยาหอมแก้ลมวิงเวียน ยาธาตุอบเชย ขับลม บรรเทาท้องอืด ยาผสมเพชรสังฆาต บรรเทาริดสีดวงทวารหนัก และยาจากสมุนไพรเดี่ยว 15 รายการ เช่น ยากล้วย รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ยามะขามแขกบรรเทาอาการท้องผูก ยาเพชรสังฆาตบรรเทาอาการริดสีดวงทวารหนัก ยาทิงเจอร์ทองพันชั่ง ทิงเจอร์พลู ยาเปลือกมังคุดใช้รักษาโรคทางผิวหนัง ยาบรรเทาอาการปวดกล้าม เนื้อเช่นเถาวัลย์เปรียง น้ำมันไพล ยาขับปัสสาวะ เช่นยาหญ้าหนวดแมว ยามะระขี้นก แก้ไข้แก้ร้อนใน ยารางจืดถอนพิษเบื่อเมา หญ้าปักกิ่งแก้ร้อนใน ยาหญ้าดอกขาวใช้เพื่อลดความอยากบุหรี่ เป็นต้น 

    ใน ปี 2554 นี้ ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มการใช้ยาแผนไทยและสมุนไพรในสถานบริการระดับต่างๆให้มาก ขึ้น โดยในโรงพยาบาลศูนย์ ให้ได้ร้อยละ 2 โรงพยาบาลทั่วไปร้อยละ 5 ส่วนโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้ได้ร้อยละ 10 ของมูลค่าการใช้ยาทั้งหมดของสถานพยาบาล และตั้งเป้าหมายจะให้ประชาชนใช้บริการการแพทย์แผนไทยเพื่อบำบัดอาการต่างๆ เพิ่มจากร้อยละ 5 ในปี 2553 ให้ได้ร้อยละ 10 ด้วย

    ****************************************   24 ธันวาคม 2553

     


  • แหล่งข่าวโดย.... สำนักสารนิเทศ
    ผู้จัดทำ.... ฝ่ายข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ กลุ่มสารนิเทศ
    [24/ธ.ค/2553]
    http://www.moph.go.th/show_hotnew.php?idHot_new=35677

     

    Jingle Bells

    จากโครงการปฏิบัติงานสื่อสารสังคม(เว็บไซต์) ครับ


    จาก: จรุงพัฒน์ ใจวงศ์ผาบ <ninja_jarung@hotmail.com>
    วันที่: 24 ธันวาคม 2553, 16:20
    หัวเรื่อง: จากโครงการปฏิบัติงานสื่อสารสังคม(เว็บไซต์) ครับ
    ถึง:

    เรียน ทุกท่านครับ

     

    อัพเดตบทสัมภาษณ์ล่าสุด ยาสุโนริ โอนิชิ กับย่างก้าวที่สำคัญของ JICA,

    รัตติกาล โพธิ์สุ ปรับพฤติกรรมผู้สูงอายุด้วยการคัดกรอง,

    โสภณ อปท. ต้องเข้าใจผู้สูงอายุ, 

    เวทีประชุมระดมความคิดเห็นและวิพากษ์ข้อเสนอเชิงนโยบาย การคัดกรองสุขภาวะของผู้สูงอายุ  และแนะนำหนังสือ ประชาชนปฏิรูปประเทศไทย  ศ. นพ. ประเวศ วะสี ขอเรียนเชิญทุกท่านติดตามและดาวโหลดได้ทาง www.ppvoice.org ครับ

     

     

    ด้วยความเคารพอย่างสูง

    จรุงพัฒน์ ใจวงศ์ผาบ (จาครับ)

    084-0297165

    โครงการปฏิบัติงานสื่อสารสังคมเพื่อส่งเสริมสิทธิพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ 2550  มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.)


    วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    google



     
     

    --

    Season's Greetings from TI


    From: 14IACC <14iacc@transparency.org>
    Date: 2010/12/20
    Subject: Season's Greetings from TI
    To:


     

     

    Transparency International is the global civil society organisation leading the fight against corruption.

    www.transparency.org

    This email is confidential and intended for the addressee only. If you are not the intended recipient, any use, disclosure, distribution, printing or copying of this email is unauthorised. If you have received this email in error, please immediately notify the sender by replying to the email, then delete all copies from your computer. This email and its attachments have been swept for computer viruses but Transparency International accepts no responsibility whatsoever for damage caused by viruses in connection with this email. Transparency International may monitor all emails and attachments as it is presumed that they are sent or received in connection with the activities of TI and to ensure the integrity of its computer systems. Statements and opinions contained in this email are those of the sender, not necessarily of Transparency International.




    E - Card Happy New Year and Merry Christmas - VoiceTV




    จาก: www.voicetv.co.th <no-reply@voicetv.co.th>
    วันที่: 22 ธันวาคม 2553, 20:14
    หัวเรื่อง: E - Card Happy New Year and Merry Christmas - VoiceTV
    ถึง:





     

    วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    วันที่ 21-25 มีนาคม 2554 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

    ด้วยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะจัดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ UTCC Academic Week ประจำปี 2553 ระหว่างวันที่ 21-25 มีนาคม 2554


    ทั้งนี้ จึงขอเชิญผู้สนใจเสนอผลงานวิจัยเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยลงทะเบียนผ่านระบบได้ที่ http://utcc2.utcc.ac.th/academicweek/
    ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายวิชาการโทร. 0-2697-6897


    --

    หนังสือถวายฎีกา เครือข่ายผู้ปกครองเพือ่ความเป็นธรรมทางการศึกษา


    จาก: lee lee <thai9lee@gmail.com>
    วันที่: 19 ธันวาคม 2553, 22:43
    หัวเรื่อง: หนังสือถวายฎีกา เครือข่ายผู้ปกครองเพือ่ความเป็นธรรมทางการศึกษา
    ถึง:
    เครือข่ายผู้ปกครงเพื่อความเป็นธรรมทางการศึกษา    โดยคุณคมเทพ ประภายนต์

    และภาคีเครือข่ายผุ้ปกครองอื่นๆ จะไปยื่นหนังสือถวายฎีกาเรือ่งตุลาการศาลปกครองปฏิบัติหน้าที่ขาดหลักนิติธรรม ต่อสำนักงานราชเลา

    ในวันที่ 23  ธค 2553 เวลา 10.30 น

    รายละเอียดตามเอกสารแนบ

    และเพิ่มเติมได้ที่ 081 4127412  86I8,  คุณคมเทพ ประภายนต์

    ขอบคุณคะ



    วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    คีโมกับมะเร็ง เรื่องจริงที่หมอไม่ได้บอก

    คีโมกับมะเร็ง เรื่องจริงที่หมอไม่ได้บอก

    เขียนโดย Administrator   
    วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2010 เวลา 11:31 น.
    เราทุกคนกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงในเรื่องนี้ กันเกือบทุกคน  มาร่วมกันสร้างสุขภาพพึ่งตนเองกันเถอะ  พึ่งความรู้ ลดการพึ่งพาหมอ  เพราะหมอเองก็เกินกำลัง หากพวกเราไม่สร้างสุขภาพพึีงตนเอง
            หลัง จากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก

            ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์

            1. ทุกๆ คนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล(1,000,000,000 เซล เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษา แล้ว มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่ มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

            2. เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

            3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

            4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยว
            กับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

            5. เพื่อ เอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกัน แข็งแรงขึ้น

            6. การทำ คีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวด เร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ

            8. การ บำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก

            9. เมื่อ ร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมี ความซับซ้อนยิ่งขึ้น

            10. การทำ คีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลาย พันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

            11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว

            อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง
            a. น้ำตาลคืออาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น "" นิวตร้าสวีต "" "" อีควล "" "" สปูนฟูล "" ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่าคือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ "" แบรก อมิโน "" หรือเกลือทะเลแทน
            b. นม เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ ได้รับอาหาร
            c. เซล มะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทนเนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง
            d. อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ด ถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลภายใน 1 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด ( ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ2-3 ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ140 องศา F ( ประมาณ 4 องศา C)
            e. ให้ หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อ กโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง

            12. โปรตีน จากเนื้อจะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความ เป็นพิษมากขึ้น

            13. ผนัง ของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น

            14. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สารIP6 [inositol hexaphosphate หรือ phyti acid],สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือ กำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป

            15. มะเร็ง เป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุกและการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำ สงครามกับมะเร็ง.... ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต

            16. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อก ซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆจะช่วยให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับเซล การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง  

     http://www.tuvolunteer.org/index.php?option=com_content&view=article&id=204%3A%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81&catid=10%3A%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89&Itemid=2

    ตารางกิจกรรมของมูลนิธิพันดารา ปี 2554


    จาก: Thousand Stars Foundation มูลนิธิพันดารา <1000tara@gmail.com>
    วันที่: 18 ธันวาคม 2553, 20:25
    หัวเรื่อง: ตารางกิจกรรมของมูลนิธิพันดารา ปี 2554
    ถึง: Thousand Stars Foundation <1000tara@gmail.com>


    ตารางกิจกรรมของมูลนิธิพันดารา ปี 2554

    18 มกราคม ถึง 1 มีนาคม  : อบรมภาษาทิเบตพื้นฐาน 1 ณ บ้านมูลนิธิ ลาดพร้าว ซอย 11 ทุกวันอังคาร/พุธ เวลา 18.00-20.00

    22-23 มกราคม  : กิจกรรม ศิลปะ ธรรมชาติ ความรักศูนย์ขทิรวัน หัวหิน

    30 มกราคม  : สมาธิภาวนาบนวิถีซกเช็น ครั้งที่ 3 บ้านมูลนิธิ เวลา 15.00-17.00 น. (เฉพาะเดือนนี้ เปลี่ยนเวลาเป็นช่วงบ่าย)

    2 กุมภาพันธ์  : บรรยาย เรื่อง การเตรียมตัวสำหรับวาระสุดท้ายของชีวิต” (Graceful Dying: How to Prepare for Oneself and Loved Ones) โดยริงกุ ทุลกุ ริมโปเช ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส สวนรถไฟ เวลา 17.30-20.00 น.

    5-6 กุมภาพันธ์  : อบรมกรรมฐาน เยียวยาจิตใจบนวิถีตารา” (Retreat on “Healing the Mind: The Way of Tara) นำภาวนาโดยริงกุ ทุลกุ ริมโปเช  และร่วมพิธีมนตราภิเษกพระศยามตารา (ตาราเขียว) ณ ศูนย์ขทิรวัน หัวหิน 

    13 กุมภาพันธ์  : สมาธิภาวนาบนวิถีซกเช็น ครั้งที่ 4 บ้านมูลนิธิ เวลา 10.00-12.00 น.

    18-20 กุมภาพันธ์  : สมาธิภาวนาเนื่องในวันมาฆบูชา ณ ศูนย์ขทิรวัน หัวหิน

    นั่ง สมาธิ กราบอัษฎางคประดิษฐ์ สวดตารามนตรา 100,000 จบ ถือศีล 10 ทิเบต (ละอกุศลกรรมบถสิบประการ) นำ ภาวนาโดยรศ. ดร. กฤษดาวรรณ หงศ์ลดารมภ์

    26-27 กุมภาพันธ์  : กิจกรรมจิตอาสาบ้านดินสร้าง กุฏิปฏิบัติธรรมณ ศูนย์ขทิรวัน หัวหิน (รอการยืนยัน)

    2-9 มีนาคม : ทริปจาริกแสวงบุญทิเบต/หิมาลัย

    13 มีนาคม  : สมาธิภาวนาบนวิถีซกเซ็น ครั้งที่ 5 บ้านมูลนิธิ เวลา 10.00-12.00 น.

    26 มีนาคม  : การประชุม กายกับใจและดีท็อกซ์สไตล์ทิเบต” (สถานที่จะแจ้งให้ทราบ) เวลา 9.00-17.00 น.

    26-30 มีนาคม  : กิจกรรม การแพทย์ทิเบตกับการมีสุขภาพดี รักษาโรคกับคุณหมอทิเบตจากสถาบันญารงชา ลาซา

    กิจกรรมบรรยายนอกสถานที่โดยรศ. ดร. กฤษดาวรรณ หงศ์ลดารมภ์

    30 มกราคม  : บรรยายเรื่อง การเตรียมตัวตายในพุทธเถรวาทและวัชรยานณ สาวิกาสิกขาลัย เวลา 9.00-12.00 น. สำหรับนิสิตวิชาชีวิตและความตาย

    12 กุมภาพันธ์ : บรรยายเรื่อง ตารา ฑากินี และพระมหาสถูปที่หัวหิน”  ณ ป๋วยเสวนาคาร วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เวลา 14.00-17.00 น.

    --


    10 ROSES oFOR YOU!!! << Safe Stamp from Scanmail >>



    จาก: lee lee <thai9lee@gmail.com>
    วันที่: 15 ธันวาคม 2553, 15:15
    หัวเรื่อง: Fwd: FW: 10 ROSES oFOR YOU!!! << Safe Stamp from Scanmail >>
    ถึง:
    เรียนทุกท่านคะ
     
    ขอบคุณทุกท่านในการช่วยเหลือบ้านเมืองในปีที่ผ่านมา
    ขอส่งความปรารถนาดีมายังทุกท่านคะ

    และฝากเรื่องบุญต่อคะ

    ขอบพระคุณคะ
    กมลพรรณ






    Subject: FW: แหล่งบริจาคสิ่งของ (ส่งต่อเยอะแล้วได้บุญน่ะ)
    To: Khunying Chatchani Chatikavanij <kit@loxinfo.co.th>


    เพื่อทราบเพื่อจะได้เมตตาช่วยเหลือตามศรัทธา

     


     

     

     

    From: trakul_wattana na_chiengmai [mailto:tkw.nachiengmai@gmail.com]
    Sent: Thursday, December 02, 2010 8:59 PM
    To: undisclosed-recipients:
    Subject: แหล่งบริจาคสิ่งของ (ส่งต่อเยอะแล้วได้บุญน่ะ)

     

    แหล่งบริจาคสิ่งของ (ส่งต่อเยอะแล้วได้บุญน่ะ)

    ผ้าปูที่นอนเก่าแลกผ้าปูที่ นอนใหม่
    ชุดเครื่องนอนโตโต้ จัดกิจกรรมผ้าปูที่นอนเก่า (ยี่ห้อใดก็ได้) แลกซื้อผ้าปูที่นอนใหม่รุ่นไร้ รอยต่อยี่ห้อโตโต้ขนาด 3.5 ฟุตได้ในราคา 200 บาท และขนาด 5-6 ฟุตในราคา 300 บาท ตั้งแต่วันนี้หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
    ทางบริษัทจะนำผ้าปูที่นอนเก่าทั ้งหมดไปบริจาคให้แก่ สถานพยาบาลผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอดส์ ณ วัดพระบาทน้ำพุ
    ดาวโหลดแบบฟอร์มแลกซื้อได้ที่ www.totobed.com หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่ 08-6311-7659

    คอมนี้พี่ซ่อมให้
    โครงการ คอมนี้พี่ซ่อมให้ต้องการ รับบริจาคคอมพิวเตอร์มื อสองจำนวนมาก เพื่อนำไปเพิ่มศักยภาพในการศึ กษา และเปิดโลกกว้างให้น้องๆ ตามโรงเรียนในชนบทที่ยังขาดแค ลน
    นอกจากนี้  ทางโครงการยังต้องการอาสาสมั ครที่มีความรู้ ความสามารถในการซ่อมคอมพิวเตอร์ มาร่วมงานทุกวันเสาร์ เวลา 10.00 -14.00 น.
    สอบถามรายละเอียดได้ที่ โครงการคอมพิวเตอร์เพื่อน้อง มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 41 อาคารเลิศปัญญา ห้อง 907 ชั้น 9 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม. 10400  โทรศัพท์ & nbsp;02-642- 7991 ต่อ 17

    มอบไออุ่น สู่พี่น้องบนดอยสูง

    โครงการ มอบไออุ่น จากอุ่นไอรัก สู่พี่น้องบนดอยสูง" ขอเชิญผู้ใจดีร่วมกันแบ่งปันน้ ำใจ บริจาคผ้าห่ม  จำนวน 2,000 ผืน และ เสื้อกันหนาวสำหรับเด็ก จำนวน 1,000 ตัว สำหรับพี่น้องชาวไทยชาวภูเขาผู้ ประสบภัยหนาว ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจั งหวัดใกล้เคียง  
    เชิญร่วมบริจาคได้ที่ โครงการกองทุนเสื้อผ้ามือสอง มูลนิธิกระจกเงา 106 หมู่ 1 บ้านห้วยขม ตำบลแม่ยาว  อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57100 หรือ โทรศัพท์ 053-737412 ถึง 3 ต่อ 113

    ความดีต้องเพียงพอ ชีวิตต้องพอเพียง
    ศูนย์ ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่ นดินเชิงคุณธรรม สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี ขอเชิญเยาวชนร่วมประกวดเรี ยงความชีวิตดีเพราะมีวินัย ... แรงบันดาลใจจากคำพ่อสอนทำความดี และดำรงชีวิตตามแนวปรั ชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทุนการศึกษา 5,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
    ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณอภิดล โทรศัพท์ 0-2940-9946 หรือ 081-810-250 เว็บไซต์www.8kondee.com

    สานฝันเด็กป่วยเป็นมะเร็งระยะสุ ดท้าย

    มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง “Wishing well” ก่อตั้งโดยมีวัตถุประสงค์ที่ จะต่อเติมความฝันของเด็กซึ่งเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และไม่สามารถรักษาได้ ให้มีโอกาสเลือกแนวทางการรักษา เพื่อจะได้ใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายให้มีคุณภาพและมีคุณค่าทางจิ ตใจ โดยการทำฝันครั้งสุดท้ายให้เป็ นความจริง
    ร่วมสบทบทุนเข้ามูลนิธิ สายธารแห่งความหวัง ได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาสภากาชาดไทย เลขที่บัญชี 045-2-95999-4 หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง 25 สาทรใต้ ตึกกรุงเทพประกันภัย ชั้น 9 ถนนสาทร กรุงเทพ 10120 โทรศัพท์  0-2677-4117 เว็บไซต์www.wishingwellthai. org  

    คุณครูริมคลอง

     กลุ่มอาสาอิสระและกลุ่ม ซ.โซ่อาสา ขอชวนหนุ่มสาวชาวกรุงร่วมแบ่งปั นความรู้สู่น้องๆ ผู้ยากไร้กับ ครูอาสาใจกลางเมือง โครงการ ดีๆ ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ขอเพียงมีใจที่จะร่วมแบ่งปันก็ พอ พร้อมเปิดการเรียนการสอนแล้วทุ กเสาร์-อาทิตย์ที่ชุมชนตึกแดง บางซื่อ (เสาร์ 09.00-12.00น.) , ครูริมคลองข้างโรงแรมรัตนโกสิ นทร์ (อาทิตย์ 09 .00-12.00 น.) และครูใต้สะพานอรุณอมรินทร์ (อาทิตย์ 14.00-16.30 น.) สอบถามโทร 081-515-8564
    ด่วน! รับจำนวนไม่จำกัด

    กล่องของพี่ เพื่อสมุดของน้อง

    กล่องใครว่าไม่สำคัญ เพราะนอกจากจะมีไว้บรรจุของแล้ว กล่องยังสามารถนำกลับมาใช้ ประโยชน์ได้อีกครั้งกับ โครงการกล่องของพี่ เพื่อสมุดของน้อง ที่เชิญชวนผู้มีน้ำใจร่วมบริ จาคกล่องเครื่องดื่มประเภทกล่ องนม กล่องน้ำผลไม้ และกล่องชาเขียวต่าง ๆ เพื่อนำมารีไซเคิลเป็นสมุดเรียนส่งตรงยังน้องๆ ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
    ส่วนวิธีการร่วมบริจาคก็ไม่ยาก แค่ดื่มน้ำให้หมด แกะมุมกล่อง พับให้แบน แล้วส่งใส่ตู้รับบริจาคที่ห้ างสรรพสินค้า รวมทั้งร้านค้าสะดวกซื้อที่เข้ าร่วมโครงการฯ เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น, คาร์ฟูร์, โรบินสัน, สยามพารากอน ฯลฯ ข้อมูลเพิ่มเติม www.thaibcg.com

    ธรรมะ Mobile

    ธรรมะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่ อไปแล้ว หลังจากที่พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) ได้เปิดตัวสื่อธรรมะนวั ตกรรมใหม่ ธรรมะ Mobile” เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้คนที่ ไม่มีเวลาเข้าวัดฟังธรรม ได้เสพธรรมะสั้นๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือในรูปแบบ SMS ทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร ในอัตราค่าสมาชิกเพียงเดือนละ 29 บาท ทั้งนี้ก็เพื่อลดทุกข์ สร้างสุข และสร้างรอยยิ้มให้เกิดขึ้ นในใจของทุกคนอย่างไร้ขีดจำกัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-502-0428

    Reuse me, please.

    ของ เหลือใช้สำหรับบางคน อาจเป็นของมีค่าที่สุดสำหรับอี กคนหนึ่งก็ได้ ใครที่กำลังจะโละของเหลือใช้ทิ้ งลงถังขยะ ทางมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) ขอรับบริจาคของเหล่านั้น เพื่อนำมาสร้างใหม่เป็นสื่ อการสอนสำหรับน้องในถิ่นทุรกั นดาร ไม่ว่าจะเป็นปฎิทินเก่า แก้ว เสื้อผ้า ต่างหู เข็มกลัด เศษกระดาษ กระดุม ลูกปัด ฯลฯ ก็สามารถนำมาบริจาคเป็นส ื่ อการสอนท ี่อัดแน่นด้วยสาระได้

    นอกจากจะบริจาคของแล้ว หากใครมีเวลาว่างยังสามารถมาร่วมออกแรงสร้างสื่อการสอนให้น้องๆ ที่มูลนิธิฯได้อีกด้วย สนใจติดต่อ 02-691-0437-9 (ก่อนเวลา 18.00 น.)

    เพียง 1 บาทก็ช่วยงานอาสาได้

    เชื่อหรือไม่ว่าเงิน 1 บาทสามารถช่วยเหลือผู้คนนับร้อยนั บพันได้ ด้วยการบริจาคเงินสมทบทุนกองทุน V Fund” เพียงอาทิตย์ละ 1 บาท ตลอด 1 ปี ผ่านบัญชี มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย เพื่อกองทุนจิตอาสา ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่ บัญชีเลขที่ 043-2-66606-6 < /B>จากนั้นกองทุนจะรวมเงินส่งต่ อให้กับมูลนิธิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการจิตอาสาคลองใส โครงการศิลปะในสวน การจัดทำแผนที่ทำดีออนไลน์ ฯลฯ   เพียงแค่ 1 บาทก็สามารถสร้างสรรค์สังคมให้ ดีงามได้

    สนใจสอบถามที่โทร 02-319-5017

    สมทบทุนสร้างพระอุโบสถธรรมชาติ

    วัด ป่าส ันติธรรม ประเทศออสเตรเลีย ขอชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมอนุ โมทนาบุญสมทบทุนสร้างพระอุ โบสถธรรมชาติแห่งแรกในออสเตรเลี ย ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนสงบในถ้ ำของเขตอุทยาน Morton National Park ซึ่งพระอุโบสถแห่งนี้จะใช้เป็ นสถานที่ในการอุปสมบทภิกษุ ภิกษุณี รวมทั้งบรรยายธรรม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
    www.santiforestmonastery.com

    หนูหิว-หนูอยากเรียน
    เชื่อหรือไม่ว่า ร้อยละ 35 ของเด็กในพม่าเรียนจบไม่เกินชั้ น ป. 5 แถมจำนวนทหารเด็กในพม่ายังสูงที ่สุดในโลกถึง 70,000 คน! ไม่นับรวมปัญหาความยากจน ภาวะทุโภชนาการและเด็กกำพร้า
    ปัจจุบันพม่ามีโรงเรียนวัดที่ช่วยโอบอุ้มเด็กเหล่านี้ให้ได้เรี ยนและไม่อดอยากถึง 1,400 แห่ง แต่ด้วยสภาพสังคมปิดและเศรษฐกิ จถดถอยโดยเฉพาะหลังเกิ ดไซโคลนนาร์กิส ทำให้โรงเรียนวัดเหล่านี้ ขาดแคลนเงิน ทุนสำหรับอุปกรณ์ การเรียน อาหาร และจ้างครู อย่างหนัก
     เครือข่ายพุทธิกา และองค์กรด้านเด็กของไทยรวม 18 องค์กร รวมทั้งภาคีอื่นๆ จึงจัดทำ ผ้าป่าเพื่อการศึกษาของเด็กยากไร้ในพม่า เพื่อนำเงินบริจ าคทั้งหมดมอบให้ โรงเรียนวัดในพม่าแห่งละ 50,000 บาท หลังทอดผ้าป่าเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมานี้สามารถรวบรวมปัจจั ยได้ถึง 2.4 ล้านบาท แต่เนื่องจากโรงเรียนวัดในพม่ามีจำนวนมากดังกล่าวแล้ว การบริจาคสมทบทุนจึงยังคงทำได้ ต่อไปผ่านทาง มูลนิธิเด็ก 3 ช่องทาง คือ ทางธนาณัติ สั่งจ่าย ปณ.กระทุ่มล้ม 73220, ทางตั๋วแลกเงิน สั่งจ่าย มูลนิธิเด็ก หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม มูลนิธิเด็ก ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพชรเกษม ซอย 114 เลขที่บัญชี 115-2-14733-0 (กรณีโอนเงิน ให้ส่งสำเนาใบโอนทางโทรสารหรือแฟ็กซ์ 0-2814-0369 หรือโทร. 0-2814-1481-7)
    คนไทยเรามีน้ำใจต่อผู้ทุกข์ยากและเดือดร้อนเสมอไม่ว่าจะเป็ นคนชาติไหน
    ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ เครือข่ายพุทธิกา โทร. 0-2883-0592, 0-2886-9881 หรือ
    www.budnet.infoE-mail: b_netmail@yahoo.comหรือ bnetmail@gmail.com

    สมทบทุนสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม 84 พรรษาราชนครินทร์

     Secret
    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริ จาคเงินสมทบทุนสร้างศูนย์ปฏิบั ติธรรม 84 พรรษาราชนครินทร์ จังหวัดจันทบุรี โดยการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางยี่ขัน ชื่อบัญชี การกุศลเลขที่บัญชี 047-2-26347-3 สอบถามเพิ่มเติมที่ 081-8112027

    เติมชีวิตด้วยการให้
     มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาช่วยเด็ กไทยที่ยากจนและด้อยโอกาสผ่าน โครงการอุปการะเด็กโดยจะบริจาคตามเจตจำนงหรือเพี ยงเดือนละ 450 บาท อย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยให้เด็ก ๆ มีหลักประกันด้านสุขอนามั ยและการศึกษาในระยะยาว นอกจากนี้ครอบครัวและชุมชนที่ เด็กอาศัยอย ู่ก็จะได้รับการส่งเสริมทักษะอาชีพจนพึ่งพาตนเองได้ในที่สุด โทร. 02-381-8863-5
    www.worldvision.or.th

    ครูอาสากลางกรุง
    กลุ่มอาสาอิสระและกลุ่มอาสา Teacher4Sunday ร่วมกับ ชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า เขตดุสิต ชักชวนคนใจดีทุกเพศทุกวัยมาช่วยกันสอนหนังสือ และเสริมสร้างคุณธรร มให้กับน้อง ๆ ในระดับอนุบาลถึง ประถม 6 ทุกวันอาทิตย์ 9.00-12.00 น. ที่ชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า
    สนใจติดต่อคุณจิระพงษ์ รอดภาษา โทร. 02-515-8564 อีเมล์
    Rodpasa@hotmail.com
     “ร่วมหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความดีกลางกรุง ดอกไม้แห่งความสุขจะบานกลางใจ

    พ่อของเด็กกว่า 400 ชีวิต
    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือ พระครูวุฒิธรรมาทร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์ อ. ป่าโมก จ. อ่างทอง ผู้เป็น พ่อของเด็กกำพร้ากว่า 400 ชีวิตที่ทางวัดอุปการะไว้ตั้ งแต่เมื่อ 30 ปีก่อน ซึ่งปัจจุบันกำลังประสบปัญหาค่าใช้จ่ายทั้งด้านอาหาร เสื้อผ้า และอุปกรณ์การเรียน &n bsp; ร่วมบริจาคสิ่งของได้ที่วัดโบสถ์วรดิตถ์ หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม วัดโบสถ์วรดิตถ์ โดยพระ ครูวุฒิธรรมาทร ธนาคารกสิกรไทย สาขาป่าโมก เลขที่บัญชี 182-2-11-364-4
    "ของเหลือจากคนเมืองอันมีจะกินเป็นสิ่งมีค่าเหลือหลายสำหรับเด็กที่ไม่เคยได้ใช้ เงินแม้แต่บาทเดียว . . ."

    กล้าคิดกล้าทำ
    Youth Venture เปิดโอกาสให้เยาวชนอายุ 14-24 ปี รวมกลุ่มกันคิดโครงการและลงมื อทำกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็ นประโยชน์ต่อชุมชนและสั งคมของตนเอง โดยองค์กรจะสนับสนุนเงินทุนตั้ งต้น คำแนะนำและเครื่องมือคิดโครงการ พี่เลี้ยงที่ปรึกษา และการเชื่อมต่อกับเยาวชนทั่ วโลกที่เข้าร่วม
     เปิดรับสมัครตลอดปี! ข้อมูลเพิ่มเติมและดาวน์ โหลดใบสมัครได้ที่
    www.thailand.youthventure.org

    สานต
    อการศึกษาไทย
    เพื่อเป็นการสานต่อ โอกาสทางการศึกษา โรงเรียนเตรียมสามเณรวัดครึ่ งใต้ ตำบลครึ่งใต้ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ขอเชิญผู้มิจิตศรัทธาร่วมบริ จาคเงินสมทบทุน กองทุนอาหารกลางวัน และทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรเพื่อให้พระภิกษุ สามเณร และเยาวชนลุ่มแม่น้ำโขงที่อยู่ ในพื้นที่ทุรกันดารริมตะเข็ บชายแดนไทย-ลาว ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึง โดยสามารถบริจาคได้ที่ชื่อบัญชีกองทุนธรรมทานบัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาศิริราช เลขที่บัญชี 016-4-16300-9 หรือติดต่อร่วมบริจาคที่ สถาบันวิมุตตยาลัย โทรศัพท์ 02-422-9123, 081-8890-010, 084-9117-235

    อาสาทำดี 1 วัน
    จิตใจแห่งอาสาสมัครนั้นเกิดขึ้ นได้ทุกที่ทุกเวลา และเพื่อเป็นการฝึกให้กิจกรรมอาสากลายมาเป็นส่วนหนึ่ งของชีวิตประจำวัน โครงการ Volunteer one day trip จึงขอชวนทุกคนมาร่วมอาสาทำดี ภายใน 1 วัน โดยผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเลื อกได้ว่าจะเข้าร่วมก ิ จกรรมอาสาด้านใด เริ่มต้นที่ปลูกปะการังชายฝั่ง จังหวัดชลบุรี, ปลูกปะการังที่เกาะ จังหวัดชลบุรี, ปลูกป่าชายเลน จังหวัดชลบุรี, สร้างกุฏิดิน จังหวัดราชบุรี และสร้างฝายชะล อน้ำ จังหวัดราชบุรี ข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามที่ หมายเลขโทรศัพท์ 086-770-2233 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

    อ่านสร้างชาติ
    จริงอยู่ที่ว่าการอ่านคือจุดเริ ่มต้นของการเรียนรู้ แต่แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าปัจจุบันเด็กไทยอ่านหนังสือเพียงวันละไม่เกิน 7 บรรทัด ยิ่งเป็นเด็กที่อยู่ในชนบทที่ห่ างไกลด้วยแล้ว การได้อ่านหนังสือดีๆ สักเล่มถือได้ว่าเป็นโอกาสอันน้ อยนิดของพวกเขา ดังนั้นเพื่อให้เยาวชนในถิ่นทุรกันดารได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์ อันกว้างไกล โครงการอ่าน...สร้างชาติ จึงขอชวนคนไทยร่วมบริจาคหนังสือดี (มือสอง) โดยส่งมาได้ที่มูลนิธิกระจกเงา เลขที่  41 อาคารเลิศปัญญา ชั้น9 ห้อง 907 พญาไท ราชเทวี กรุงทพฯ 10400 โทรศัพท์ 02-642-7991   ต่อ 16 บริจาคเพียงคนละ 1 เล่ม ก็สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้แล้ว

    ห้องสมุดธรรมะออนไลน์
    ใครว่าหนังสือธรรมะต้องอยู่คู่ วัดอย่างเดียว ล่าสุดทางเว็บไซด์
    www.jarun.orgได้จัดทำห้องสมุดธรรมะออนไลน์ ให้พุทธศาสนิกชนได้ดาวน์โหลดหนั งสือสวดมนต์ วิธี การทำกรรมฐานตามแนวทางหลวงพ่ อจรัญ รวมทั้งคำสอนต่างๆในรูปแบบที่ทันสมัย ทั้งวีดีโอ E-book และไฟล์เสียงต่างๆ สนใจคลิกเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ http://www.jarun.org/v6/th/ digitallibraly-book.html หรือ jarun.multiply.com



    ***** *

     


     

     

    แหล่งบริจาคสิ่งของ (ส่งต่อเยอะแล้วได้บุญน่ะ)

     

     


     




    วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    26-28 มกราคม 2554 การ ประชุมเชิงปฏิบัติการ การดำเนินกิจกรรมบนเครือข่ายสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา ครั้งที่ 23 (Workshop on UniNet Network and Computer Application หรือ WUNCA) ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

    "ขอเชิญชวนนักวิจัย นักศึกษา และผู้ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้าร่วมนำเสนอผลงานวิชาการ และผลงานจากการปฏิบัติงาน ในการประชุมวิชาการ CIT & UniNOMS 2011 ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา"
    26-28 มกราคม 2554 การ ประชุมเชิงปฏิบัติการ การดำเนินกิจกรรมบนเครือข่ายสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา ครั้งที่ 23 (Workshop on UniNet Network and Computer Application หรือ WUNCA) ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

    http://www.wunca.uni.net.th/wunca23/

    วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    วันที่ 14 -15 มกราคม 2554 หอประชุมจุฬาฯ และอาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย





    กำหนดการประชุม

    วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554
    08.00 - 09.00 น.       ลงทะเบียน
    09.00 - 09.15 น.       พิธีเปิด  
    09.15 – 10.00 น.      ปาฐกถานำเรื่อง "มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ: กรณีศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
    10.00 - 10.15 น.       พักน้ำชา – กาแฟ
    10.15 – 11.30 น.      การอภิปราย  (1 )
                                       1. "การพัฒนากีฬาชาติสู่ความเป็นเลิศระดับโลก"
                                       2. "ธุรกิจสร้างเสริมสุขภาพ"
                                       3. "รูปแบบและทางเลือกของการสร้างเสริมสุขภาพของประชาคมภายในมหาวิทยาลัย"
    11.30 – 12.30 น.      พักรับประทานอาหารกลางวัน
    12.30 - 14.00 น.       การนำเสนอโปสเตอร์ นิทรรศการ และการสาธิต (1 )
    14.00 – 14.15 น.      พักน้ำชา – กาแฟ
    14.15 – 16.30 น.      การนำเสนอบทความ ( 1 )

    วันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2554
    08.00 - 09.00 น.        ลงทะเบียน
    09.00 - 10.30 น.        การนำเสนอบทความ ( 2 )
    10.30 - 10.45 น.        พักน้ำชา – กาแฟ
    10.45 - 12.00 น.        การนำเสนอโปสเตอร์ นิทรรศการ และการสาธิต ( 2 )
    12.00 – 13.00 น.       พักรับประทานอาหารกลางวัน
    13.00 – 14.15 น.       การอภิปราย ( 2 )
                                        1. "โคลนนิ่งนักกีฬาอัจฉริยะ"
                                        2. "หล่อสวยด้วยธรรมชาติ"
                                        3. "มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนโดยรอบ"
     14.15 – 14.45 น.     พิธีปิดและมอบรางวัล

    รายละเอียดการประชุมวิชาการ

    "มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ"
                    จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเห็นความสำคัญของสุขภาวะของบุคลากรและชุมชนรอบมหาวิทยาลัย ด้วยเห็นว่าผู้ที่มีสุขภาพดีจะสามารถดำรงชีวิต ศึกษาเล่าเรียน ทำงาน และทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างเป็นสุข  จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ "บ้านนี้มีสุข"  ขึ้น  ประกอบด้วยโครงการและกิจกรรมด้านส่งเสริมสุขภาพต่างๆ จำนวนมาก  และในโอกาสที่ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยครั้งที่ 38  "จามจุรีเกมส์"  ระหว่างวันที่ 15-22 มกราคม พ.ศ. 2554  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเห็นควรจัดการประชุมวิชาการเรื่อง "มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ" ขึ้น  เพื่อเปิดโอกาสให้คณาจารย์ นักวิจัย นิสิตนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาจากศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ วิทยาศาสตร์การกีฬา  วิทยาศาสตร์สุขภาพ  ครุศาสตร์ นิเทศศาสตร์  นิติศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ฯลฯ รวมถึงมหาวิทยาลัยที่ร่วมโครงการมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. ได้มาร่วมประชุมเสนอผลงานวิจัย/วิชาการ และสิ่งประดิษฐ์ พร้อมทั้งได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างกว้างขวาง อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาวิชาการด้านการสร้างเสริมสุขภาพในประเทศไทยยิ่งขึ้นไป

    ประเภทผลงาน
                   ผลงานที่จะนำเสนอในการประชุม ได้แก่ บทความวิจัย บทความวิชาการ และสิ่งประดิษฐ์ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง "มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ" ตามหัวข้อต่างๆในตารางด้านล่างหรือในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง  ขนาดความยาวของบทความ 15-20 หน้า  พร้อมทั้งบทคัดย่อไม่เกิน 1 หน้า A4

    รูปแบบการนำเสนอ
    บทความวิจัย/วิชาการ - นำเสนอแบบปากเปล่า หรือโปสเตอร์  
    สิ่งประดิษฐ์ - นำเสนอนิทรรศการ

    การตัดสินผล
    • คณะกรรมการวิชาการของการจัดประชุม ทำหน้าที่คัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อประเมินผลงาน และพิจารณากำหนดรูปแบบการนำเสนอของแต่ละบทความตามความเหมาะสม
    • คณะกรรมการตัดสินรางวัล  ทำหน้าที่พิจารณาให้รางวัลแก่ผู้ที่นำเสนอผลงานแบบปากเปล่าและแบบโปสเตอร์  ผลการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นอันสิ้นสุด

    สถานที่การจัดประชุม
                   หอประชุมจุฬาฯ  และอาคารมหาจุฬาลงกรณ์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    ค่าลงทะเบียน
                   ไม่จัดเก็บค่าลงทะเบียน

    การรับสมัคร
    • นำเสนอบทความวิจัย/วิชาการและสิ่งประดิษฐ์ ตั้งแต่บัดนี้ - 30 กันยายน 2553
    • เข้าร่วมประชุมวิชาการ ตั้งแต่บัดนี้ – 31 ธันวาคม 2553

    http://meeting.chamchurigames38.chula.ac.th/timetable