ทรัพย์สินจุฬาฯ ทยอยไล่ปรับโฉมที่ดินโรงหนังลิโด้ เตรียมควักกว่า 1,800 ล้าน ผุดช้อปปิ้งมอลล์ใหม่ ปี 57
และแล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง หากเป็นไปตามข่าวนี้โรงหนังเครือเอเพ็กซ์ ลิโด้ จะหมดสัญญาเช่าใน ธันวาคม ปี พ.ศ.2556 และ สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีแผนจะปรับปรุงสถานที่เป็นช้อปปิ้งมอลล์ (อ่านรายละเอียดได้ด้านล่าง) โดยมีแผนสร้างแล้วเสร็จปี 2557 นอกเหนือจากนี้ในข่าวอื่นยังเพิ่มอีกด้วยว่าโรงหนังสกาล่าจะหมดสัญญาปี 2559 ซึ่งก็มีแนวโน้มจะถูกพัฒนาตามโครงการเช่นนี้เหมือนกัน
นั่นหมายความว่าเราจะไม่มีโรงหนังแบบโรงเดี่ยว(Stand Alone) ไปอีก 1 แห่ง (และอีกไม่ช้าจะตามไปอีก 1 แห่ง) ซึ่งยังเป็นโรงหนังสำคัญอีกด้วยเนื่องจากมีอายุยาวนาน มีผู้คนผูกพันจำนวนมาก ทั้งนี้เพราะในช่วงสิบปีที่ผ่านมาโรงลิโด้ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของหนังทางเืลือกสำหรับใครหลายคน เพราะแม้จะฉายหนังตลาดอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็มีหนังทางเลือกเข้าฉายตลอดเช่นกันในราคาเพียง 100 บาท แม้โรงภาพยนตร์เครืออื่นจะปรับตัวขึ้นราคาไปมากแล้วก็ตาม
ผมขอนับรายชื่อห้างในบริเวณใกล้เคียงกับโรงหนังลิโด้คร่าวๆ ได้แก่ MBK Center, สยามพารากอน, ดิจิตัล เกตเวย์, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่, เซ็นทรัลเวิลด์ และบิ๊กซี ราชดำริ ส่วนละแวกใกล้กันนั้นยังมี จามจุรี สแควร์, พัลลาเดียม, แกรนด์ไดมอนด์, แพลตทินั่ม, ชิบูย่า 19, กรุงทองพลาซ่า 1 และ 2, พันธ์ทิพย์ พลาซ่า และ โลตัส พระราม 1
น่าสงสัยเหมือนกันว่าเรายังมีห้างสรรพสินค้าไม่พออีกหรือ ?
ข่าวจาก โพสต์ทูเดย์
13 มีนาคม 2555
ทรัพย์สินจุฬาฯ ทยอยไล่ปรับโฉมที่ดินโรงหนังลิโด้ เตรียมควักกว่า 1,800 ล้าน ผุดช้อปปิ้งมอลล์ใหม่ ปี 57
นพ.เพิ่มยศ โกศลพันธุ์ รองอธิการบดี กำกับดูแล สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ เตรียมแผนที่จะพัฒนาพื้นที่บริเวณเฟส 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงภาพยนตร์ลิโด้ เนื้อที่ 7-8 ไร่ เป็นช็อปปิ้งมอลล์แห่งใหม่ หลังจากสัญญาการเช่าพื้นที่หมดลงในปี 2556 โดยจะเริ่มพัฒนาได้ในต้นปี 2557 ขณะที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการสยามสแควร์วัน หรือ SQ1 บนเนื้อที่ 8 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ของโรงภาพยนตร์สยามเดิม ที่ใช้เงินลงทุน 1,800 ล้านบาท จะก่อสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในเดือนธ.ค. ปี 2556
"บริเวณ ถ.พระราม 1 ที่บริเวณสยามสแควร์นั้นถือว่ามีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ หลังจากที่โรงหนังสยาม ถูกไฟไหม้ไป เมื่อคราวเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง จึงทำให้ที่ดินแปลงดังกล่าวนั้นถูกนำมาพัฒนาก่อสร้างได้ก่อน และจะทยอยปรับโฉมเป็นช็อปปิ้ง มอลล์ใหม่ ในเฟส 2 บริเวณโรงหนังลิโด้ รวมไปถึงที่ดินบริเวณโรงหนังสกาล่า ซึ่งทั้ง 3 แห่งเป็นโรงหนังในเครือเอเพ็กซ์ที่มีกลุ่มสวนนงนุชเป็นผู้เช่า และทยอยหมดสัญญาเช่า"
สำหรับโครงการสยามสแควร์วันนั้น มีเนื้อที่ 7.4 หมื่นตร.ม เป็นอาคารสูง 9 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จะเป็นศูนย์การค้าที่เน้นสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ จากกลุ่มยังดีไซน์เนอร์คนไทย และอินเตอร์แบรนด์ และกลุ่มสินค้าไอที รวมไปถึงร้านค้าแฟลกชิพ สโตร์ บริเวณชั้น 7 ของโครงการ จะก่อสร้างเป็นเพลย์เฮ้าส์ หรือโรงละคร ขนาด 850 ที่นั่ง โดยอยู่ระหว่างประมูลหาผู้ดำเนินการ ซึ่ง มี 2 บริษัท สนใจเข้ามาประมูลคือ บริษัท เวิร์คพ้อยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และบริษัท ทีวี ธันเดอร์ ซึ่งจะทราบผลเร็วๆ นี้ว่ารายใดชนะการประมูล
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นกลุ่มระดับ เอ ถึงบี ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่น นิสิต นักศึกษา กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยว คาดว่าหลังจากเปิดใหม่บริการในช่วงแรก จะมีลูกค้ามาเดินไม่ต่ำกว่าวันละ 5 หมื่นคน และมีการจัดจ่ายไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อครั้ง
นพ.เพิ่มยศ กล่าวถึงโครงการประเภทมิกซ์ยูส บริเวณสี่แยกเจริญผล ที่เปิดประมูลโดยมีผู้ที่ผ่านร่างทีโออาร์ ได้แก่ กลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์ และกลุ่มทีซีซีแลนด์ ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนร่วมทุนเนื่องจากเป็นโครงการที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มที่กลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์จะชนะการประมูลมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากเสนอผลตอบแทนสูงกว่ากลุ่มทีซีซีแลนด์ อย่างไรก็ตามทางสำนักทรัพย์สินจุฬาฯอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองขอเพิ่มอัตราผลตอบแทนที่เสนอเข้ามา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น