ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน"

ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ร่วมลงนาม ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ มั่นคงภายใน - กฎอัยการศึก - พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เปิด 6 “ที่ปรึกษา” สำนักงานประกันสังคม ฟันค่าตัว 28 ล้าน

เปิด 6 "ที่ปรึกษา" สำนักงานประกันสังคม ฟันค่าตัว 28 ล้าน

Date : 2012-07-25 10:42:14

 
 

เผยแพร่โดย ศูนย์ข่าวอาร์เอสยูนิวส์

 

สำนักข่าวอิศรา / 25 ก.ค. 2555 เปิดข้อมูลสำนักงานประกันสังคมจ้าง"ที่ปรึกษา"สนุกมือ 

หมุนเวียน  6 คนให้คำแนะนำด้านบริหารความเสี่ยง ประมวลผล ลงทุนตราสาร ฟันค่าตัวกว่า 28 ล้าน  

หยอดสถาบันการศึกษากว่า 54 ล้าน

 

สำนักงานประกันได้ใช้เงินเกือบ 30 ล้านบาทในการจ้างที่ปรึกษา 6 คนเป็นที่ปรึกษาด้านบริหารการลงทุนตั้งแต่ปี 2552  เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน 

 

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 เป็นต้นมาจนถึงปี 2554 สำนักงานประกันสังคมได้ใช้เงิน  28,607,800 บาทเพื่อจ้างที่ปรึกษาด้านการลงทุนและอื่นๆ ได้แก่

 

1.น.ส.สุธีรา พิทยเมธี  จำนวน 1 ครั้ง  1,004,400 บาท  (30 ธ.ค. 51)

 

2.นายรัชกฤษณ์พงศ์ เอกรังสรรค์  4  ครั้งจำนวน 6,785,800 บาท (ที่ปรึกษาด้านบริหารความเสี่ยง)

 

3. นางสาวหทัยทิพย์ พิชัยภาพ  3  ครั้ง รวม 4,897,200 บาท   (ที่ปรึกษาด้านงานประมวลผลและบัญชีเงินลงทุน)

 

4. นายเศรษฐ์ศิษฏ์ เขียนวิจิตร์  2 ครั้ง จำนวน 2,197,200 บาท (ที่ปรึกษาด้านการกำกับการลงทุน)

 

5. นายเจริญ แซ่โง้ว   3 ครั้ง 6,895,200 บาท  (ที่ปรึกษาด้านการบริหารความเสี่ยง)

 

6. นายอรรถพล ยามะรัต 2 ครั้ง 2,334,000 บาท  (ที่ปรึกษาการลงทุนด้านตราสารทุน)

 

นอกจากนี้ยังใช้เงิน 1,760,400 บาทเป็นค่าจ้างที่ปรึกษาด้านการบริหารความเสี่ยงเมื่อวันที่ 30  ธ.ค.2551 โดยไม่ได้ระบุรายละเอียด

 

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เงินจำนวนดังกล่าวไม่รวมการว่าจ้างสถาบันการศึกษาหลายแห่งเป็นที่ปรึกษาตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมาอีก 54,575,161 บาท

 

นายรัชกฤษณ์พงศ์ เอกรังสรรค์  เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)

 

ขณะเดียวกันยังใช้เงินอีกเกือบ 2 ล้านบาทในการจัดซื้อรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2554

 

 

นายรัชกฤษณ์พงศ์ เอกรังสรรค์

 

นางสาวหทัยทิพย์ พิชัยภาพ

 

นายเศรษฐ์ศิษฏ์ เขียนวิจิตร์

 

นายเจริญ แซ่โง้ว

 

นายอรรถพล ยามะรัต

 

http://www.rsunews.net/index.php/news/detail/2665

 

วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ของโปรดเราที่กินกันทุกวันเนี่ยเป็นอาหารที่ย่อยยากรึเปล่า

 

 



แต่ละมื้อที่เรากินไป บางคนอาจจะไม่รู้ว่ากว่าอาหารจะย่อยเนี่ยต้องใช้เวลากี่นาที หรือเป็นชั่วโมง วันนี้เรามาดูกันว่า ของโปรดเราที่กินกันทุกวันเนี่ยเป็นอาหารที่ย่อยยากรึเปล่า

30 นาที น้ำ กาแฟ และแกงจืด

1 ชั่วโมง ขนมปังขาว โยเกิร์ต นม ผลิตภัณฑ์นม และผลไม้ที่ให้สุกด้วยการหุงต้ม

2 ชั่วโมง ผลไม้ ผัก มันผรั่งบด ปลาไขมันต่ำ

3 ชั่วโมง ครัวซองต์ ขนมปังโฮสวีต

4-7 ชั่วโมง เนื้อหมู ของทอด เห็ด ผลไม้เปลือกแข็ง

8-9 ชั่วโมง ขาหมู ผักกะหล่ำ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก mcot

อบซาวน่าเพื่อสุขภาพที่ดีและผิวที่สดใส

  http://magicpertty.blogspot.com/2011/01/blog-post_21.html

อบซาวน่าเพื่อสุขภาพที่ดีและผิวที่สดใส

สวยด้วยสุขภาพวันนี้  แม่หมอจะชวนเพื่อนๆมาอบซาวน่ากัน.....  อันที่จริง การอบตัวนี่มีหลายประเภทนะคะ ทั้งอบซาวน่า อบ streaming หรืออบไอน้ำ รวมไปถึงอบสมุนไพร และเข้ากระโจม ..... วันนี้เรามาคุยกันเรื่องเซาวน่าก่อนดีกว่า  ชื่อออกจะฝรั่งเพราะฉะนั้นต้นกำเหนิดคงไม่ใช่ในไทยแน่แล้วค่ะ ....... ซาวน่า เป็นวารีบำบัดวิธีหนึ่งของชาวฟินแลนด์ค่ะ ซึ่งมีประวัติเก่าแก่ยาวนานมาเป็นพันปี โดยชาวฟินแลนด์มักจะนิยมตัดต้นสนที่อยู่ข้างทะเลสาบในฤดูหนาวมาก่อเป็นห้องซาวน่าแล้วเข้าไปอบไอน้ำและความร้อนกันในนั้น หลังจากนั้นก็จะเจาะพื้นน้ำแข็งในทะเลสาบและลงไปแช่น้ำเย็นเยือกแข็งต่อในทันทีที่ออกมาจากห้องอบซาวน่า ยังผลให้ชาวฟินแลนด์มีภูมิต้านทานร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่ายค่ะ 


ประโยชน์ของการซาวน่า 

ลดสารพิษจากระบบเลือด ทั้งคลอเลสโตรอล โลหะหนัก สารเคมีตกค้าง น้ำส่วนเกิน และเซลล์ที่ตายแล้วโดยขับออกมาทางผิวหนังในรูปของเหงื่อ

เพิ่มการหมุนเวียนเลือด ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจน และสารอาหารอย่างทั่วถึง จึงช่วยลดความดันโลหิต

-ช่วยคลายอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ปวดศีรษะ

ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยคลายความเครียดได้ดี 

เป็นการทำความสะอาดตัวเองด้วยการหลั่งเหงื่อและขับของเสียต่าง ๆ ที่เกิดจากการเผาผลาญออกมา

ฆ่าเชื้อโรค ผิวพรรณสะอาดสดใส 

-ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 600 ถึง 900 แคลอรี่ในแต่ละครั้ง


แต่ใช่ว่าจะมีเฉพาะข้อดีนะคะ ข้อเสียของการซาวน่าก็มีอยู่บ้างค่ะ ....... การอบซาวน่าเป็นระยะเวลานานๆ หลอดเลือดที่ผิวจะขยายตัว เลือดจะมากองอยู่บริเวณผิวหนังมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้อวัยวะสำคัญต่างๆในร่างกาย เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต มีเลือดไปเลี้ยงน้อยลง จึงไม่ดีแน่ถ้าจะอบซาวน่าเป็นระยะเวลานานๆ.........และเพื่อนชายของแม่หมออ่านตรงนี้กันซักนิดนะคะ  ที่ผ่านมาพบว่าผู้ชายที่ชอบอบซาวน่า หรือนอนแช่น้ำอุ่นนานๆ หรืออาบน้ำที่ร้อนจัด จะทำให้ปริมาณอสุจิลดลง เนื่องจากอสุจิจะเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 35.5 องศาค่ะ


วิธีการอบซาวน่าที่ถูกต้อง

การอบซาวน่าที่ถูกวิธีนั้นควรจะอยู่ในห้องอบซาวน่า ประมาณ 3 ไม่เกิน 5 นาที .......... หลังจากออกจากห้องซาวน่าแล้วให้ลงแช่ในบ่อน้ำเย็นต่อ (อุณหภูมิที่แนะนำควรจะต่ำกว่า 20 ?C) หรืออาจจะใช้วิธีอาบน้ำเย็นแทนในกรณีที่ไม่มีบ่อน้ำเย็นให้บริการ ........... โดยแช่น้ำเย็นสัก 2 นาที แล้วกลับไปอบซาวน่าอีก 3 นาที สลับกับลงบ่อน้ำเย็นอีก 2 นาที ทำสลับกันไปเช่นนี้สัก 3 รอบ (คือ ให้เริ่มด้วยอบร้อนก่อน แล้วจบด้วยแช่น้ำเย็น ทำเช่นนี้ 3 รอบ)  และยังมีรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมให้อีกดังนี้ค่ะ

ให้ถอดเครื่องประดับทุกชิ้นออกก่อนเข้าห้องซาวน่า รวมถึงเครื่องประดับที่ติ่งหูและที่เจาะใส่จมูก โลหะเป็นสื่อนำความร้อน ลวกผิวให้ไหมพองได้


ห้ามอบซาวน่าในขณะท้องอิ่ม ไม่ควรรับประทานอาหารใด ๆ ก่อนซาวน่าเป็นเวลา 2 ชั่วโมง

ใครออกกำลังกายก่อนเข้าซาวน่าควรพัก และรอจนจังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติ มิฉะนั้นจะเกิดอันตรายต่อระบบของร่างกาย

หัวใจสูบฉีดและเต้นเร็วขึ้นไม่ควรเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้ามากกว่านี้จะเกิดอันตรายต่อระบบของร่างกายได้เพระฉะนั้นให้ปรับอุณภูมิให้พอเหมาะกับตัวเราทุกครั้งนะคะ

ควรอาบน้ำก่อนและเช็ดตัวให้แห้งหลังจากอาบน้ำ ผิวที่แห้งจะขับเหงื่อได้ดีและเร็วขึ้น และเพื่อให้เศษเซลส์ผิวหมองได้พองตัวและหลุดลอกจากผิวอย่างง่ายดาย 

ควรขัดผิวก่อนเข้าห้องอบ ผิวจะนุ่มยิ่งขึ้นความร้อนจะช่วยให้เศษไขมันในรูขุมขนละลายอ่อนตัว วิธีนี้เป็นการทำความสะอาดผิวที่ลึกขึ้น

ขณะซาวน่าควรจิบน้ำเพียงเล็กน้อย ขณะที่หลั่งเหงื่อจะมีการดึงน้ำ และของเสียออกจากเนื้อเยื่อเข้าไปในระบบเลือด ถ้าร่างกายได้รับน้ำทันที ระบบเลือดจะดึงของเหลวจากลำไส้แทนการดึงจากเนื้อเยื่อ ซึ่งจะไปขัดขวางระบบขับของเสียโดยไม่รู้ตัว

การอบซาวน่าจะกระตุ้นให้ไตเกิดการฟอกของเสียขยันขันแข็งขึ้น หลังอบซาวน่าให้ดื่มน้ำแร่ หรือไวน์ที่ผสมโซดา หรือน้ำแร่แช่มะนาวฝานบางสักชิ้นในแก้วจะยิ่งดี แต่ห้ามดื่มแอลกอฮอล์

อบซาวน่าเท่าที่ร่างกายรู้สึกสบายไม่ควรอบนานเกินไป บางคนแค่ 5 นาทีก็พอ บางคนอยู่นานถึง 20 นาที เฉลี่ยแล้วร่างกายได้รับประโยชน์ภายใน 8 นาที

ได้เดิน 5-6 ก้าวจะดียิ่ง ให้เดินอย่างมากสัก 15 นาที และพักร่างกายให้สงบ 15 นาที ห้ามว่ายน้ำเด็ดขาด

ควรผ่อนร่างกายให้เย็นลงอย่างช้า ๆ โดยเริ่มจากสูดหายใจเอาลมเย็น ๆ เข้าไปภายใน แล้วอาบน้ำเย็น เมื่อระบบบหมุนเวียนในร่างกายคงที่ก็ลงอ่างน้ำได้ แต่ห้ามอาบน้ำเย็นในทันทีทันใดโดยเด็ดขาด

สิ่งที่ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการอบซาวน่ามีดังนี้ค่ะ 

1. ความร้อนจากการอบตัวไม่ใช่วิธีการในการลดน้ำหนัก เพียงช่วยปรับสมดุลการทำงานของต่อมฮอร์โมนต่างๆ ดังนั้นการที่อบตัวนานๆ ในตู้อบ ทำให้น้ำหนักลดได้ก็จริงจากการเสียน้ำ แต่เมื่อดื่มน้ำทดแทน น้ำหนักก็จะกลับมาเท่าเดิม 

2. ความร้อนจากการอบตัวไม่ได้ช่วยละลายไขมันสะสมในร่างกาย 


3. การอบซาวน่า ซึ่งอาศัยความร้อนเป็นตัวทำให้เส้นเลือดบริเวณผิวหนังขยายตัว กล้ามเนื้อขยายตัว ช่วยคลายกล้ามเนื้อ........  นอกจากนี้ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยคลายความเครียดได้ดี จากนั้นลงแช่น้ำเย็นต่อทันทีเพื่อให้เส้นเลือดที่ผิวหดตัว ไล่เอาเลือดที่ได้รับกระตุ้นด้วยความร้อนบริเวณผิวหนังเข้าไปสู่ภายในร่างกายไปสู่อวัยวะสำคัญ ได้แก่ สมอง หัวใจ ตับ ไต เพิ่มความสดชื่นแจ่มใสกระปรี้กระเปร่า เสริมสร้างภูมิต้านของร่างกายและคลายความเครียดให้แก่จิตใจได้อีกด้วย

4.การอบซาวน่าเป้นการออกกำลังกายให้กับหลอดเลือด  ความร้อนจากซาวน่ากระตุ้นระบบโลหิตใต้ผิวหนัง ให้หมุนเวียนสูบฉีดว่องไว จัดสรรอาหารและออกซิเจนเข้าสู่เซลส์ผิวอย่างมากมาย ภาวะที่ต้องนั่งทำงานนิ่ง ๆ นาน ๆ ในออฟฟิศ โลหิตใต้ผิวจะหมุนเวียนเฉื่อยชาลง ส่งผลให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นถึงการสะสมของเซลลูไลต์ ขณะเข้าซาวน่า หลอดเลือดมีการขยายตัว พอคุณออกจากซาวน่า หลอดเลือดจะเกิดการหดตัว ภาวะที่หลอดเลือดหดและขยายตัวเช่นนี้ คือการออกกำลังกายให้กับหลอดเลือด

5.ความร้อนจากการอบตัวยังกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน งานวิจัยจากสหรัฐอเมริการะบุว่า จำนวนเซลล์ที่ทำหน้าที่ทำลายและดูดสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย อย่างเชื้อแบคทีเรียจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ขณะที่หายใจสูดอากาศอุ่นร้อนในซาวน่าเข้าไป จะกระตุ้นให้มีการสูบฉีดโลหิตสู่เยื่อบุถึง 17 ครั้ง ภาวะเช่นนี้จะกระตุ้นการสร้างสารปกป้องร่างกายจำพวกฮีโมโกลบินให้มากขึ้น (ฮีโมโกลบิน เป็นโปรตีนในเลือดพลาสม่า ทำหน้าที่ด้านภูมิต้านทาน) 

6.ผู้อบซาวน่าจะต้องไม่เป็นโรคติดเชื้อรุนแรง ไข้หวัด และโรคไต สำหรับโรคความดันโลหิตและเส้นเลือดตีบตัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด



ว่าแล้วพวกเรา ชมรมสวยใสๆ หาเวลาไปอบซาวน่ากันดีกว่านะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีและผิวพรรณที่สดใสจะได้อยู่กับเราตลอดไปค่ะ

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สุดสะเทือนใจ! แม่โลมาแบก"ลูกที่ตายแล้ว"ไว้บนหลัง (ชมคลิป)

 

สุดสะเทือนใจ! แม่โลมาแบก"ลูกที่ตายแล้ว"ไว้บนหลัง (ชมคลิป)

วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10:20:48 น.

Share




 

นักท่องเที่ยวสามารถจับภาพสะเทือนใจ หลังจากพบเหตุการณ์โลมาแบกลูกที่ตายแล้วไว้บนหลัง กลางทะเลทางตอนใต้ของจีน

 

 

 

 

ภาพดังกล่าว เป็นภาพของโลมาขนาดความยาว 3 เมตร กำลังแบกลูกของตัวเองซึ่งมีร่องรอยของเลือดไว้บนหลัง บริเวณอ่าวซานเหนียง เมืองชินโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน

 

เมื่อกลุ่มนักท่องเที่ยวและชาวประมงเข้าไปดูใกล้ๆ จึงพบว่าลูกโลมานั้นตายแล้ว โดยที่ท้องของมันมีบาดแผลยาวราว 30 เซนติเมตร คนขับเรือคนหนึ่งกล่าวว่า เขาทราบมาว่า โลมามักช่วยชีวิตมนุษย์ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเหตุการสะเทือนใจเช่นนี้

 

จากคลิปวิดีโอพบว่า สภาพคลื่นที่แรงทำให้ลูกโลมาหล่นจากหลังลงไปในทะเลหลายครั้ง แต่แม่โลมาก็พยายามนำตัวลูกของมันมาแบกไว้บนหลัง คาดกันว่า ลูกโลมาอาจโดนเรือนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากในบริเวณดังกล่าวชน

 

ชาวประมงที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ลำตัวของลูกโลมามีสีชมพู ซึ่งบ่งชี้ได้ว่าเป็นลูกโลมาที่เพิ่งเกิดใหม่ และคาดว่าน่าจะตายมาแล้ว 2-3 วัน แต่แม่ของมันยังคงไม่ยอมทิ้งลูก และพยายามแบกลูกไว้บนหลังตลอดทั้งวันทั้งคืน วิดีโอนี้ได้ถูกนำไปโพสต์ทางอินเทอร์เน็ต สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนอย่างมาก ทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่า โลมาก็มีความรู้สึกและมีความเป็นแม่ไม่ต่างจากคน

 

นอกจากนั้นยังชี้ให้เห็นว่า โลมาอาจมีความตระหนักรู้ถึงความตายไม่ต่างจากมนุษย์ ซึ่งยังคงเป็นที่ถกเถียงว่ามันรู้สึกเช่นนั้นจริงหรือไม่ โดยผลการศึกษาด้านพฤติกรรมของโลมา พบว่าแม้พวกมันจะมีสมองที่ต่างจากของมนุษย์ แต่เมื่อยิ่งศึกษาเพิ่มขึ้น จะพบว่าพวกมันแทบจะมีลักษณะและความสามารถเช่นเดียวกับมนุษย์

 

 

 

 

 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1342581540&grpid=01&catid=&subcatid=

ปรับปรุงแบบส่งตัวลูกจ้างเข้ารักษา (กท.44) ให้ รพ. ฉบับใหม่ พร้อมดีเดย์บังคับใช้ 1 ส.ค. 55

ปรับปรุงแบบส่งตัวลูกจ้างเข้ารักษา (กท.44) ให้ รพ. ฉบับใหม่ พร้อมดีเดย์บังคับใช้ 1 ส.ค. 55

วันที่ 18 ก.ค. 2555 
สำนักงานประกันสังคม
 
ประกันสังคม ปรับปรุงแบบส่งตัวลูกจ้างเข้ารักษา (กท.44) ให้ รพ. ฉบับใหม่ พร้อมดีเดย์บังคับใช้ 1 ส.ค. 55 
          สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เผยขณะนี้ได้ปรับปรุงแบบส่งตัวเข้ารักษาพยาบาล (กท.44) ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ส.ค.55 นี้ เพื่อให้นายจ้างใช้ในการส่งตัวลูกจ้างที่เจ็บป่วยจากงานเข้ารักษาในสถานพยาบาล เชิญชวนนายจ้างดาวน์โหลดแบบได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th 
         นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคมมีหน้าที่ดูแลให้ความคุ้มครองลูกจ้างที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน กรณีที่ลูกจ้างเจ็บป่วยหรือประสบอันตรายจากการทำงาน นายจ้างมีหน้าที่ส่งแบบแจ้งการประสบอันตราย (กท.16) ให้สำนักงานประกันสังคมภายใน 15 วันนับแต่วันที่ลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย พร้อมแบบส่งตัวลูกจ้างเข้ารักษาพยาบาล (กท.44) ให้กับสถานพยาบาลในความตกลงของกองทุนเงินทดแทน ซึ่งแบบส่งตัวลูกจ้างเข้ารับการรักษาพยาบาล (กท.44) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นายจ้างแสดงความจำนงให้โรงพยาบาลให้การรักษาพยาบาลลูกจ้าง และให้เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนเงินทดแทนได้โดยตรง ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นายจ้างลูกจ้างไม่ต้องจ่ายเงินทดรองค่ารักษาพยาบาลขณะนี้สำนักงานประกันสังคมได้มีการปรับปรุงแก้ไขแบบส่งตัวลูกจ้างเข้ารับการรักษาพยาบาล (กท.44) ฉบับใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยปรับปรุงให้เป็นหนังสือแนะนำตัวลูกจ้างต่อสถานพยาบาล ซึ่งแบบการส่งตัวของลูกจ้าง (กท.44) ฉบับใหม่ดังกล่าว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป สำนักงานประกันสังคมได้เร่งดำเนินการจัดพิมพ์ และส่งให้สถานประกอบการทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งขอเชิญชวนนายจ้างดาวน์โหลดแบบดังกล่าวได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม ที่ www.sso.go.th 
          หากมีปัญหาข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 12 แห่ง/จังหวัด/สาขา/ทุกแห่ง หรือโทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th 
....................................................................... 
กระทรวงแรงงาน สายด่วนประกันสังคม 1506 บริการ 24 ชั่วโมง หรือที่ www.sso.go.th
 

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คนเก็บเบอร์รี่ที่ฟินแลนด์




สารคดีเรื่องนี้นำเสนอสภาพความเป็นอยู่และการทำงานเก็บเบอรรี่ของเกษตรกรไทย ที่ผู้ถ่ายทำได้พบและสนทนาด้วย
ระหว่างเยี่ยมแคมป์คนงานเก็บเบอรรี่ 9 แห่งที่เขตแลปแลนด์ ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ในเดือนกันยายน 2553
----------------
ในปี 2553 คนไทยประมาณ 2,000 คน ทำงานวันละ 12-20 ชั่วโมงที่ฟินแลนด์ เพื่อเก็บเบอรรี่รวมกันหลายล้านกิโล
ให้กับอุตสาหกรรมเบอรรี่ที่ิฟินแลนด์และสแกนดิเน­­เวียร์

ในตอนสิ้นสุดฤดูกาล คนเก็บเบอรรี่เหล่านี้จะมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นประมาณ 140 -- 150,000 บาท ซึ่งจะต้องเก็บเบอรรี่ป่าให้ได้มากกว่า 3,000 กิโล ถึงจะมีเงินเหลือกลับบ้านบ้าง

มันไม่มีเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมเบอรรี่ - มีก็เพียงแต่การกดขี่แรงงานเกษตรกรไทยที่ถูกเอาเปรียบมากอยู่แล้วในเมืองไทย

 

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

กรมเจ้าท่ายุคใหม่ “บริการด้วยใจ ไม่มีพัก”

 image

เริ่มกิจกรรมวันที่ : 01 มี.ค. 2555
ถึงวันที่ : 31 ธ.ค. 2555

สถานที่จัดกิจกรรม : กรมเจ้าท่า

กรมเจ้าท่ายุคใหม่ "บริการด้วยใจ ไม่มีพัก" เป็นการให้บริการงานบริการทุกประเภทของทุกหน่วยงานในกรมเจ้าท่า แบบเต็มเวลาโดยไม่มีพักกลางวัน ทุกวันทำการ ตั้งแต่ ๐๘.๓๐ – ๑๖.๓๐ น.

กรมเจ้าท่ายุคใหม่ "บริการด้วยใจ ไม่มีพัก" เป็นการให้บริการงานบริการทุกประเภทของทุกหน่วยงานในกรมเจ้าท่า แบบเต็มเวลาโดยไม่มีพักกลางวัน ทุกวันทำการ ตั้งแต่ ๐๘.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. จากการดำเนินการให้บริการประชาชนตั้งแต่ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๕ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคพร้อมกันทั่วประเทศนั้น ทุกหน่วยงานในกรมเจ้าท่าทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้ดำเนินการแล้ว ได้แก่ สำนักมาตรฐานทะเบียนเรือ ซึ่งให้บริการเคลื่อนที่ด้านการต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือ จดทะเบียนเรือ ออกใบสำคัญรับรอง ตรวจเรือ ออกประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือ และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้รับบริการเกี่ยวกับเอกสารการเดินเรือต่างๆ แก้ผู้ประกอบการ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของระบบฐานข้อมูลเรือ ฐานข้อมูลการตรวจเรือ และฐานข้อมูลผู้ทำการในเรือและผู้ประกอบการ ในส่วนของสำนักมาตรฐานเรือ ได้ให้บริการด้านตรวจและกำหนดมาตรฐานเรือ และอุปกรณ์ประจำเรือ การตรวจรับรอง วัสดุเครื่องมือ เครื่องใช้ ให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งานและตามมาตรฐานสากล พร้อมให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการต่อเรือ กองมาตรฐานคนประจำเรือ ให้บริการด้านสอบความรู้คนประจำเรือ สัญญาคนประจำเรือ มีหน้าที่ ดำเนินการเกี่ยวกับ ทะเบียนประวัติและหนังสือคนประจำเรือให้เป็นไปตามระบบมาตรฐานคุณภาพ และเสนอแนะ เพื่อออกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคนประจำเรือ สำนักงานเลขานุการกรม ให้บริการงานสารบรรณของกรมฯ รับ – ส่ง และโต้ตอบหนังสือ บริการประชาสัมพันธ์ติดต่อสอบถามให้คำแนะนำแก่ประชาชน รวมทั้งงานห้องสมุดที่ให้บริการหนังสือและ ให้คำแนะนำสอบถามเรื่องการรับสมัครสอบเข้ารับราชการ สำนักนำร่อง ให้บริการออกใบอนุญาตเป็นผู้นำร่อง ใบแจ้งหนี้ค่าจ้าง นำร่อง รับชำระค่าค่าจ้างนำร่อง ออกใบเสร็จรับเงินค่าจ้างนำร่อง รวมถึงจัดเก็บค่าเสียเวลารอคอยทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคด้วยระบบอิเลคทรอนิกส์ สำหรับในส่วนสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ ๑ – ๗ ได้ให้บริการด้านทะเบียนเรือในเขตพื้นที่รับผิดชอบ แก่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการในการยื่นคำขออนุญาตขุดลอกร่องน้ำทางเดินเรือ ยื่นขออนุญาตปลูกสร้างสิ่งล้วงล้ำลำน้ำ ยื่นคำขอต่อใบอนุญาตใช้เรือ จดทะเบียนเรือไทย ทำนิติกรรมสัญญา และยื่นคำร้องสมัครสอบความรู้เพื่อรับประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือ

ที่มา : กรมเจ้าท่า

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณ นิชาภา เฉนียง email : pooh_nichapa26@hotmail.com

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คลิบวิดิโอป่าเมืองน่าน จาก skyreport ch3

  Prapas Khongkun คลิบวิดิโอป่าเมืองน่าน จาก skyreport ch3
https://www.facebook.com/photo.php?v=389297827758972...
เมื่อสังคมเรียกร้อง skyreport ทีมม้าเร็วจัดให้ ภาพเขาหัวโล้น จังหวัดน่าน 
สามารถขับรถข้ามภูเขากันได้เลย.. ช่วยกันแชร์ด้วยนะพี่น้องไม่นั้นเดียวน้ำท่วมบ้านอีก 
ผู้ใหญ่บ้านเมือง ข้าราชการ หายไปไหนกันหมด
ความยาว:: ‎2:30