หน่วยงาน/องค์กร คณะบุคคล และ บุคคล ที่ประสงค์จะบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธินิคม จันทรวิทุร โปรดโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ชื่อ “กองทุนศาสตราจารย์นิคม จันทรวิทุร” ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนศรีอยุธยา เลขที่บัญชี 013 – 1 – 76613 – 9 และแจ้งการบริจาคเงินให้มูลนิธิทราบที่อยู่อีเมล์ : csuttawet@gmail.com หรือ jara_409@hotmail.com หรือ csi_edu@yahoo.com หรือ โทรสาร : 02 – 6434465
วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553
The Urban Research Plaza’s 9th Forum March 3-4 2011, Abstract Deadline Jan 15
The Urban Research Plaza's 9th Forum
March 3-4 2011, Abstract Deadline Jan 15 Theme
Arts Management – City Management:
Models for Sustainable City Renewal and Cultural Continuity
The Faculty of Fine and Applied Arts at Chulalongkorn University, Bangkok is calling for papers,
visual presentations, and workshops for our Ninth Urban Culture Research Forum.
The forum aims to encourage researchers, artists, and those involved in urban planning to seek
cross-disciplinary and cross-cultural practices aimed at fostering the development of vibrant, livable
cities and promoting cultural continuity. Visual presentations, workshops, and paper presentations
are welcome to address one or more of the following issues:
• What is the role of the arts in urban planning and community development?
• How can the arts contribute to the creative re-imagining and revitalization of the city?
• What are the good practices of sustainable city renewal?
• What role can artists play in shaping the landscape and soundscape of the city?
• How can the arts contribute to building social cohesion and bridging cultural divisions?
• How can the art communities contribute to cultural continuity?
• How can the arts stimulate participatory citizenship and social interaction?
• What role(s) can culture and the arts play in stimulating economic development?
• How can cities provide spaces for alternative and experimental art forms and activities?
• What are good practices in a city's administration of the arts?
About the URP
When the Urban Research Plaza (URP) was founded in 2001 it was originally named The Urban
Culture Research Center (UCRC) and later changed to its current name in 2006. It is an academic
collaboration and exchange program between Osaka City University, Japan and Chulalongkorn
University's Faculty of Fine and Applied Arts, Thailand that focuses on topics related to urban
culture in the areas of artistic expression, management, cultural preservation, documentation, and
education.
Deadline for sending abstracts is the 15th of January 2011
Please send abstracts (under 250 words) or visual presentation/workshop proposals (500 words)
and a brief biography (100 words) to the forum staff at: urpcu@yahoo.com.
Authors of selected works will be notified by the 4th of February 2011
Full paper submissions are due on the 15th of April 2011
Papers should be approximately 5000 words long, but not more than 7000 including the abstract,
references and keywords (max 6). Images and figures are only accepted when they are
necessary. Their captions need to be placed at the desired location in the paper, but sent
separately. Low-resolution images may be located in the text and better quality originals sent
independently for ease in emailing and high quality print when published.
Selected papers will be published in the forum's proceedings. Each attendee will be allotted 15
minutes for their presentation followed by a 5-minute Q & A session. Selected workshops may
commence 7 days before the symposium and will culminate in an exhibition, video gallery or
performance scheduled during the forum.
วันพุธที่ 2 – วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 ณ มหาวิทยาลัยเกริก
มหาวิทยาลัยเกริก กำหนดจัดงานเกริกวิชาการ 53
ระหว่างวันพุธที่ 2 – วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 ณ มหาวิทยาลัยเกริก
จึงขอเรียนเชิญคณาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป
เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอผลงานและ/หรือส่งบทความวิจัย เพื่อคัดเลือกนำเสนอผลงานในงานวิชาการดังกล่าว
โดยผู้สนใจสามารถส่งบทความได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 นี้
ที่ Email : research_kru@hotmail.co.th อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน (ศูนย์ส่งเสริมวิจัยและผลิตตำรา)
หรือ สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2970-5820 ต่อ 402
วันที่ 3-4 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 08.00 น.- 16.00น. ห้องประชุม 105 อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ประชาไทแถลง ศอฉ. ปิดเว็บ เสียหาย 5 ล้าน กระทบเสรีภาพสื่อและประชาชน
ประชาไทแถลง ศอฉ. ปิดเว็บ เสียหาย 5 ล้าน กระทบเสรีภาพสื่อและประชาชน
Wed, 2010-12-22 15:48
(22 ธ.ค.53) ที่สำนักงานประชาไท น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไท (prachatai.com) และนายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข บรรณาธิการบริหารเว็บไซต์ประชาไท ร่วมกันแถลงข่าวความเสียหาย 258 วันของการพยายามปิดกั้นข่าวสารของเว็บประชาไท
จีรนุช กล่าวว่า ประชาไทถูกปิดกั้นโดยคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในวันที่ 8 เม.ย.หรือหลังรัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 1 วัน หากไม่นับว่าเป็นการปิดกั้นเสรีภาพการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน มองในแง่มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับเว็บจะพบว่าจนถึงวันยก เลิกพ.ร.ก.มีความเสียหายเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท คำนวณตามการฟ้องร้องค่าเสียหาย (วันละ 20,000 บาท) ซึ่งประชาได้ยื่นฟ้องรัฐบาลและศอฉ.ไปแล้ว แต่ศาลชั้นต้นยกฟ้องระบุว่าเป็นการปิดกั้นเว็บไซต์อำนาจของนายกฯ และรองนายกฯ ตามพ.ร.ก. ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ นอกจากนี้ยังเสียหายต่อชื่อเสียงและสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ ทั้งในส่วนของเอสเอ็มเอสข่าวและการเปิดรับโฆษณาซึ่งทางเว็บเพิ่งเริ่มต้น โมเดลธุรกิจเหล่านี้เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองให้ยั่งยืน
จีรนุช ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ที่ผ่านมา ศอฉ.มีคำสั่งปิดกั้นเว็บต่างๆ ในลักษณะตามอำเภอใจ จากงานวิจัยของโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw.or.th) ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสต์ศึกษาพบว่า ศอฉ.มีคำสั่งถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อปิดเว็บไซต์จำนวนหลายหมื่นยู อาร์แอล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปิดกั้นเนื้อหาที่นำเสนอรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ช่วงการสลายการชุมนุม ซึ่งถือเป็น "การปิดหูปิดตาประชาชน" และยังรวมไปถึงบางเว็บที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว อยากฝากถึงทั้งรัฐบาลและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตว่าควรยุติการปิดกั้นเว็บ ทั้งหมดตามคำสั่ง ศอฉ.โดยทันที เนื่องจากไม่มีอำนาจตามกกฎหมายใดรองรับ
ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไท ยังกล่าวถึงข้อกังวลว่าแม้จะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่สื่อสารมวลชนและสังคมจะต้องตระหนักและร่วมกันเฝ้าตรวจสอบการแปลงโฉมจาก ศอฉ. มาเป็นศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ (ศอส.) โดยอาศัยการบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แสดงว่าอำนาจพิเศษตามกฎหมายซึ่งมีลักษณะพิเศษที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพและ ความมั่นคงของพลเมืองยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ขอบเขตอำนาจของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯไม่ได้ให้อำนาจในการปิดกั้นสื่อ
ชูวัส กล่าวว่า คำสั่งปิดกั้นเว็บไซต์ไม่เพียงแต่ทำความเสียหายให้ประชาไท แต่ยังลิดรอนเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งยังทำลายพัฒนาการของสื่อสารมวลชนไทยด้วย การแถลงข่าวในวันนี้ประชาไทเป็นแค่หนูลองยาที่ออกมาพูด อยากให้เว็บไซต์ต่างๆ ที่โดนปิดกั้น ได้รับผลกระทบจากจากการสั่งปิดออกมา อย่างน้อยก็ทำให้สังคมรู้ว่าเสรีภาพที่เขาพรากไป 8 เดือนมันมีค่ามหาศาลขนาดไหน
บก.บห.เว็บไซต์ประชาไทกล่าวว่า รัฐไทยควรสรุปบทเรียนได้แล้วว่า ประการแรก พรก.ฉุกเฉิน นอกจากทำความเสียหายแล้ว ไม่สามารถปิดกั้นสื่อได้เลย สื่อหลักคุณก็ไม่กล้าปิด สื่อใหม่ๆ ก็ปิดไม่ได้ โดยเทคโนโลยีมันไม่ยอมให้คุณปิด ประการที่สอง พ.ร.ก.ฉุกเฉินและการปิดกั้นของ ศอฉ. ทำให้ความขัดแย้งในสังคมไทยขยายตัว เนื่องจากข่าวสารจำนวนมากถูกซุกอยู่ใต้ดิน แม้ในแวดวงนักวิชาการเองน้อยคนที่จะสืบค้นข้อมูลอย่างจริงจังเพื่อการอ้าง อิง ถกเถียงกันทางวิชาการ ความจริงอีกด้านของคนที่ได้รับผลกระทบไม่ได้ถูกนำมาพูดคุย เมื่อคนไม่ได้พูดมันก็สะสมเป็นความกดทับภายใน รอวันระเบิด
"ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น และมีนัยยะสำคัญมาจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยตรง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นปัญหาของความมั่นคงและความสงบสุขของรัฐ และถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง" ชูวัสกล่าว
ทั้งนี้ ผอ.ประชาไทระบุว่า เว็บประชาไทเผชิญกับการปิดกั้นโดยต่อเนื่อง ในการปิดกั้นทุกช่องทางทางเว็บข่าว เว็บบอร์ด ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ยูทิวป์ สำหรับเว็บไซต์ข่าวเปลี่ยนชื่อเว็บไปทั้งหมด 8 ครั้ง เว็บบอร์ดเปลี่ยนชื่อ 3 ครั้ง ก่อนที่ประชาไทจะตัดสินใจปิดเวบบอร์ดไปเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ความพยายามปิดกั้นกระทำทั้งโดยการปิดกั้นชื่อเว็บ, การปิดกั้นไอพีแอดเดรส, การปิดกั้นที่เซิร์ฟเวอร์ เป็นเหตุให้ประชาไทต้องย้ายไปใช้บริการเซิร์ฟเวอร์ การจดทะเบียนชื่อเว็บและอื่นๆ เกือบทั้งหมดในต่างประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันในการที่เว็บจะสามารถเข้าถึงได้ สำหรับยอดผู้เข้าชมนั้น หลังจากถูกปิดกั้นทำให้จำนวนผู้เข้าชมลดลงถึง 2 ใน 3 จากสถานการณ์ปกติ
อนึ่ง วานนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 4 จังหวัดที่เหลือ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม พร้อมตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ขึ้นมาทดแทนศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่ต้องยุบเลิกไปโดยสภาพ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้น เมื่อลองเข้าเว็บประชาไทด้วยยูอาร์แอล www.prachatai.com ด้วยอินเทอร์เน็ตทรูและทีโอที พบว่าไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยขึ้นข้อความว่าเป็นการปิดกั้นตามคำสั่งของ ศอฉ. ขณะที่เมื่อเข้าด้วยอินเทอร์เน็ต 3BB สามารถเข้าถึงได้
http://www.prachatai3.info/journal/2010/12/32390
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553
สธ.เพิ่มยาสมุนไพรใหม่อีก 61 ตัวในบัญชียาหลักแห่งชาติ เป็นของขวัญปีใหม่ประชาชนปี 54
สธ.เพิ่มยาสมุนไพรใหม่อีก 61 ตัวในบัญชียาหลักแห่งชาติ เป็นของขวัญปีใหม่ประชาชนปี’54 กระทรวงสาธารณสุข มอบของขวัญปีใหม่ให้คนไทย นำยาสมุนไพรใหม่ เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มอีก 61 รายการ ครอบคลุมการรักษาทั้งอาการไข้ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคทางนรีเวช โรคทางเดินหายใจ อาการปวดเมื่อย ถอนพิษเบื่อเมา เลิกสูบบุหรี่ คาดมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2554 นี้ ดร.พรรณ สิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลัง เป็นประธานเปิดงานมหกรรม “ขอนแก่นสุขภาพดี บนวิถีไทย” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2554 และมอบใบประกาศเกียรติคุณ แก่บุคคล และสถานบริการที่มีผลงานดีเด่นด้านการแพทย์แผนไทย ที่โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น เมื่อเช้าวันนี้(24 ธันวาคม 2553)ว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการส่งเสริมและพัฒนาภูมิปัญญาไทย โดยส่งเสริมให้มีการใช้ยาจากสมุนไพรในสถานบริการสาธารณสุขในการรักษากลุ่ม โรคต่างๆ ซึ่งร้อยละ 70 ที่สามารถใช้ยาสมุนไพรหรือการแพทย์แผนไทยรักษาได้ โดยตั้งแต่ปี 2542-2549 ได้จัดทำบัญชียาจากสมุนไพรเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติ ให้แพทย์สั่งใช้รักษาโรคแล้ว 19 รายการ ดร.พรรณสิริกล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เร่งพัฒนายาไทยและสมุนไพรที่มีผลการศึกษาวิจัยยืนยันสรรพคุณทางวิชาการ เพื่อบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติให้มากขึ้น ล่าสุดนี้คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติได้พิจารณาคัดเลือกยา สมุนไพรและยาแผนไทย เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มอีก 61 รายการ โดยจะเสนอให้พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ลงนาม คาดว่าจะสามารถใช้ในเดือนมกราคม 2554 มอบเป็นของขวัญปีใหม่ประชาชนไทย ให้ได้ใช้บำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยได้กว้างขวางยิ่งขึ้น สำหรับรายการยาสมุนไพร ที่จะประกาศในบัญชียาหลักแห่งชาติในปี 2554 จำนวน 61 รายการ ประกอบด้วย ยาสมุนไพรที่เป็นยาแผนไทย หรือยาแผนโบราณจำนวน 23 รายการ เช่น ยาหอมอินทจักร์ ยาหอมทิพโอสถ.ใช้แก้ลม วิงเวียนยาประสะกระเพรา ยาวิสัมพยาใหญ่ ยามันทธาตุบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ยาตรีหอมแก้เด็กท้องผูก ระบายพิษไข้ยาธรณีสันฑะฆาตแก้ท้องผูก ยาไฟประลัยกัลป์ขับน้ำคาวปลา ยาที่เป็นเภสัชตำรับโรงพยาบาลที่โรงพยาบาลปรุงใช้เป็นตำรับยาแผนไทยหรือยาแผนโบราณ จำนวน 23 รายการ เช่น ยาหอมแก้ลมวิงเวียน ยาธาตุอบเชย ขับลม บรรเทาท้องอืด ยาผสมเพชรสังฆาต บรรเทาริดสีดวงทวารหนัก และยาจากสมุนไพรเดี่ยว 15 รายการ เช่น ยากล้วย รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ยามะขามแขกบรรเทาอาการท้องผูก ยาเพชรสังฆาตบรรเทาอาการริดสีดวงทวารหนัก ยาทิงเจอร์ทองพันชั่ง ทิงเจอร์พลู ยาเปลือกมังคุดใช้รักษาโรคทางผิวหนัง ยาบรรเทาอาการปวดกล้าม เนื้อเช่นเถาวัลย์เปรียง น้ำมันไพล ยาขับปัสสาวะ เช่นยาหญ้าหนวดแมว ยามะระขี้นก แก้ไข้แก้ร้อนใน ยารางจืดถอนพิษเบื่อเมา หญ้าปักกิ่งแก้ร้อนใน ยาหญ้าดอกขาวใช้เพื่อลดความอยากบุหรี่ เป็นต้น ใน ปี 2554 นี้ ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มการใช้ยาแผนไทยและสมุนไพรในสถานบริการระดับต่างๆให้มาก ขึ้น โดยในโรงพยาบาลศูนย์ ให้ได้ร้อยละ 2 โรงพยาบาลทั่วไปร้อยละ 5 ส่วนโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้ได้ร้อยละ 10 ของมูลค่าการใช้ยาทั้งหมดของสถานพยาบาล และตั้งเป้าหมายจะให้ประชาชนใช้บริการการแพทย์แผนไทยเพื่อบำบัดอาการต่างๆ เพิ่มจากร้อยละ 5 ในปี 2553 ให้ได้ร้อยละ 10 ด้วย **************************************** 24 ธันวาคม 2553
| |
แหล่งข่าวโดย.... สำนักสารนิเทศ ผู้จัดทำ.... ฝ่ายข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ กลุ่มสารนิเทศ [24/ธ.ค/2553] | http://www.moph.go.th/show_hotnew.php?idHot_new=35677 |
จากโครงการปฏิบัติงานสื่อสารสังคม(เว็บไซต์) ครับ
วันที่: 24 ธันวาคม 2553, 16:20
หัวเรื่อง: จากโครงการปฏิบัติงานสื่อสารสังคม(เว็บไซต์) ครับ
ถึง:
เรียน ทุกท่านครับ
อัพเดตบทสัมภาษณ์ล่าสุด ยาสุโนริ โอนิชิ กับย่างก้าวที่สำคัญของ JICA,
รัตติกาล โพธิ์สุ ปรับพฤติกรรมผู้สูงอายุด้วยการคัดกรอง,
โสภณ อปท. ต้องเข้าใจผู้สูงอายุ,
เวทีประชุมระดมความคิดเห็นและวิพากษ์ข้อเสนอเชิงนโยบาย “การคัดกรองสุขภาวะของผู้สูงอายุ” และแนะนำหนังสือ ประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ศ. นพ. ประเวศ วะสี ขอเรียนเชิญทุกท่านติดตามและดาวโหลดได้ทาง www.ppvoice.org ครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
จรุงพัฒน์ ใจวงศ์ผาบ (จาครับ)
084-0297165
โครงการปฏิบัติงานสื่อสารสังคมเพื่อส่งเสริมสิทธิพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ 2550 มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.)
วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553
Season's Greetings from TI
Transparency International is the global civil society organisation leading the fight against corruption.
This email is confidential and intended for the addressee only. If you are not the intended recipient, any use, disclosure, distribution, printing or copying of this email is unauthorised. If you have received this email in error, please immediately notify the sender by replying to the email, then delete all copies from your computer. This email and its attachments have been swept for computer viruses but Transparency International accepts no responsibility whatsoever for damage caused by viruses in connection with this email. Transparency International may monitor all emails and attachments as it is presumed that they are sent or received in connection with the activities of TI and to ensure the integrity of its computer systems. Statements and opinions contained in this email are those of the sender, not necessarily of Transparency International.
E - Card Happy New Year and Merry Christmas - VoiceTV
จาก: www.voicetv.co.th <no-reply@voicetv.co.th>
วันที่: 22 ธันวาคม 2553, 20:14
หัวเรื่อง: E - Card Happy New Year and Merry Christmas - VoiceTV
ถึง:
วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553
วันที่ 21-25 มีนาคม 2554 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
<< รายละเอียด แผ่นพับ >> |
--
http://www.isnhotnews.com/
http://www.ekthana.com/seminar_november/
http://www.navyhall.com/home.php?link=main&link2=calendar_year&set=1&md_set=1&md_in_set=1&m_set=1
http://projects.silodesign.nl/vcm/
http://masterpieces.asemus.museum/default.aspx
http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?t=1036185&page=32
http://twitter.com/RAFIKALGER
http://profile.imageshack.us/user/RafikH...
http://www.mixpod.com/playlist/47308482
http://fr-fr.facebook.com/people/Rafik-H...
http://www.tlcb.or.th/index.php?option=com_content&view=frontpage&Itemid=494
http://www.moeradiothai.net/home.php?webid=1
http://www.depthai.go.th/Default.aspx?tabid=114&qCategoryID=61&qKeyword=0
หนังสือถวายฎีกา เครือข่ายผู้ปกครองเพือ่ความเป็นธรรมทางการศึกษา
วันที่: 19 ธันวาคม 2553, 22:43
หัวเรื่อง: หนังสือถวายฎีกา เครือข่ายผู้ปกครองเพือ่ความเป็นธรรมทางการศึกษา
ถึง:
และภาคีเครือข่ายผุ้ปกครองอื่นๆ จะไปยื่นหนังสือถวายฎีกาเรือ่งตุลาการศาลปกครองปฏิบัติหน้าที่ขาดหลักนิติธรรม ต่อสำนักงานราชเลา
ในวันที่ 23 ธค 2553 เวลา 10.30 น
รายละเอียดตามเอกสารแนบ
และเพิ่มเติมได้ที่ 081 4127412 86I8, คุณคมเทพ ประภายนต์
ขอบคุณคะ
วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553
คีโมกับมะเร็ง เรื่องจริงที่หมอไม่ได้บอก
คีโมกับมะเร็ง เรื่องจริงที่หมอไม่ได้บอก | | |
เขียนโดย Administrator |
วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2010 เวลา 11:31 น. |
เราทุกคนกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงในเรื่องนี้ กันเกือบทุกคน มาร่วมกันสร้างสุขภาพพึ่งตนเองกันเถอะ พึ่งความรู้ ลดการพึ่งพาหมอ เพราะหมอเองก็เกินกำลัง หากพวกเราไม่สร้างสุขภาพพึีงตนเอง หลัง จากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์ 1. ทุกๆ คนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล(1,000,000,000 เซล เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษา แล้ว มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่ มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น 2. เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง 3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก 4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยว กับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต 5. เพื่อ เอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกัน แข็งแรงขึ้น 6. การทำ คีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวด เร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ 8. การ บำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก 9. เมื่อ ร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมี ความซับซ้อนยิ่งขึ้น 10. การทำ คีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลาย พันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย 11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง a. น้ำตาลคืออาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น "" นิวตร้าสวีต "" "" อีควล "" "" สปูนฟูล "" ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่าคือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ "" แบรก อมิโน "" หรือเกลือทะเลแทน b. นม เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ ได้รับอาหาร c. เซล มะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทนเนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง d. อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ด ถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลภายใน 1 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด ( ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ2-3 ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ140 องศา F ( ประมาณ 4 องศา C) e. ให้ หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อ กโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง 12. โปรตีน จากเนื้อจะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความ เป็นพิษมากขึ้น 13. ผนัง ของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น 14. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สารIP6 [inositol hexaphosphate หรือ phyti acid],สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือ กำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป 15. มะเร็ง เป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุกและการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำ สงครามกับมะเร็ง.... ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต 16. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อก ซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆจะช่วยให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับเซล การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง |
http://www.tuvolunteer.org/index.php?option=com_content&view=article&id=204%3A%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81&catid=10%3A%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89&Itemid=2
ตารางกิจกรรมของมูลนิธิพันดารา ปี 2554
วันที่: 18 ธันวาคม 2553, 20:25
หัวเรื่อง: ตารางกิจกรรมของมูลนิธิพันดารา ปี 2554
ถึง: Thousand Stars Foundation <1000tara@gmail.com>
ตารางกิจกรรมของมูลนิธิพันดารา ปี 2554
18 มกราคม ถึง 1 มีนาคม : อบรมภาษาทิเบตพื้นฐาน 1 ณ บ้านมูลนิธิ ลาดพร้าว ซอย 11 ทุกวันอังคาร/พุธ เวลา 18.00-20.00 น
22-23 มกราคม : กิจกรรม “ศิลปะ ธรรมชาติ ความรัก” ศูนย์ขทิรวัน หัวหิน
30 มกราคม : สมาธิภาวนาบนวิถีซกเช็น ครั้งที่ 3 บ้านมูลนิธิ เวลา 15.00-17.00 น. (เฉพาะเดือนนี้ เปลี่ยนเวลาเป็นช่วงบ่าย)
2 กุมภาพันธ์ : บรรยาย เรื่อง “การเตรียมตัวสำหรับวาระสุดท้ายของชีวิต” (Graceful Dying: How to Prepare for Oneself and Loved Ones) โดยริงกุ ทุลกุ ริมโปเช ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส สวนรถไฟ เวลา 17.30-20.00 น.
5-6 กุมภาพันธ์ : อบรมกรรมฐาน “เยียวยาจิตใจบนวิถีตารา” (Retreat on “Healing the Mind: The Way of Tara) นำภาวนาโดยริงกุ ทุลกุ ริมโปเช และร่วมพิธีมนตราภิเษกพระศยามตารา (ตาราเขียว) ณ ศูนย์ขทิรวัน หัวหิน
13 กุมภาพันธ์ : สมาธิภาวนาบนวิถีซกเช็น ครั้งที่ 4 บ้านมูลนิธิ เวลา 10.00-12.00 น.
18-20 กุมภาพันธ์ : สมาธิภาวนาเนื่องในวันมาฆบูชา ณ ศูนย์ขทิรวัน หัวหิน
นั่ง สมาธิ กราบอัษฎางคประดิษฐ์ สวดตารามนตรา 100,000 จบ ถือศีล 10 ทิเบต (ละอกุศลกรรมบถสิบประการ) นำ ภาวนาโดยรศ. ดร. กฤษดาวรรณ หงศ์ลดารมภ์
26-27 กุมภาพันธ์ : กิจกรรมจิตอาสาบ้านดินสร้าง “กุฏิปฏิบัติธรรม” ณ ศูนย์ขทิรวัน หัวหิน (รอการยืนยัน)
2-9 มีนาคม : ทริปจาริกแสวงบุญทิเบต/หิมาลัย
13 มีนาคม : สมาธิภาวนาบนวิถีซกเซ็น ครั้งที่ 5 บ้านมูลนิธิ เวลา 10.00-12.00 น.
26 มีนาคม : การประชุม “กายกับใจและดีท็อกซ์สไตล์ทิเบต” (สถานที่จะแจ้งให้ทราบ) เวลา 9.00-17.00 น.
26-30 มีนาคม : กิจกรรม การแพทย์ทิเบตกับการมีสุขภาพดี รักษาโรคกับคุณหมอทิเบตจากสถาบันญารงชา ลาซา
กิจกรรมบรรยายนอกสถานที่โดยรศ. ดร. กฤษดาวรรณ หงศ์ลดารมภ์
30 มกราคม : บรรยายเรื่อง “การเตรียมตัวตายในพุทธเถรวาทและวัชรยาน” ณ สาวิกาสิกขาลัย เวลา 9.00-12.00 น. สำหรับนิสิตวิชาชีวิตและความตาย
12 กุมภาพันธ์ : บรรยายเรื่อง “ตารา ฑากินี และพระมหาสถูปที่หัวหิน” ณ ป๋วยเสวนาคาร วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เวลา 14.00-17.00 น.
--10 ROSES oFOR YOU!!! << Safe Stamp from Scanmail >>
วันที่: 15 ธันวาคม 2553, 15:15
หัวเรื่อง: Fwd: FW: 10 ROSES oFOR YOU!!! << Safe Stamp from Scanmail >>
ถึง:
ขอบคุณทุกท่านในการช่วยเหลือบ้านเมืองในปีที่ผ่านมา
ขอส่งความปรารถนาดีมายังทุกท่านคะ
และฝากเรื่องบุญต่อคะ
ขอบพระคุณคะ
กมลพรรณ
Subject: FW: แหล่งบริจาคสิ่งของ (ส่งต่อเยอะแล้วได้บุญน่ะ)
To: Khunying Chatchani Chatikavanij <kit@loxinfo.co.th>
เพื่อทราบเพื่อจะได้เมตตาช่วยเหลือตามศรัทธา
From: trakul_wattana na_chiengmai [mailto:tkw.nachiengmai@gmail.com]
Sent: Thursday, December 02, 2010 8:59 PM
To: undisclosed-recipients:
Subject: แหล่งบริจาคสิ่งของ (ส่งต่อเยอะแล้วได้บุญน่ะ)
แหล่งบริจาคสิ่งของ (ส่งต่อเยอะแล้วได้บุญน่ะ)
|
แหล่งบริจาคสิ่งของ (ส่งต่อเยอะแล้วได้บุญน่ะ)
วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553
26-28 มกราคม 2554 การ ประชุมเชิงปฏิบัติการ การดำเนินกิจกรรมบนเครือข่ายสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา ครั้งที่ 23 (Workshop on UniNet Network and Computer Application หรือ WUNCA) ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
26-28 มกราคม 2554 การ ประชุมเชิงปฏิบัติการ การดำเนินกิจกรรมบนเครือข่ายสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา ครั้งที่ 23 (Workshop on UniNet Network and Computer Application หรือ WUNCA) ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
http://www.wunca.uni.net.th/wunca23/
วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553
วันที่ 14 -15 มกราคม 2554 หอประชุมจุฬาฯ และอาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กำหนดการประชุม |
วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554
08.00 - 09.00 น. ลงทะเบียน
09.00 - 09.15 น. พิธีเปิด
09.15 – 10.00 น. ปาฐกถานำเรื่อง "มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ: กรณีศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
10.00 - 10.15 น. พักน้ำชา – กาแฟ
10.15 – 11.30 น. การอภิปราย (1 )
1. "การพัฒนากีฬาชาติสู่ความเป็นเลิศระดับโลก"
2. "ธุรกิจสร้างเสริมสุขภาพ"
3. "รูปแบบและทางเลือกของการสร้างเสริมสุขภาพของประชาคมภายในมหาวิทยาลัย"
11.30 – 12.30 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
12.30 - 14.00 น. การนำเสนอโปสเตอร์ นิทรรศการ และการสาธิต (1 )
14.00 – 14.15 น. พักน้ำชา – กาแฟ
14.15 – 16.30 น. การนำเสนอบทความ ( 1 )
วันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2554
08.00 - 09.00 น. ลงทะเบียน
09.00 - 10.30 น. การนำเสนอบทความ ( 2 )
10.30 - 10.45 น. พักน้ำชา – กาแฟ
10.45 - 12.00 น. การนำเสนอโปสเตอร์ นิทรรศการ และการสาธิต ( 2 )
12.00 – 13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 – 14.15 น. การอภิปราย ( 2 )
1. "โคลนนิ่งนักกีฬาอัจฉริยะ"
2. "หล่อสวยด้วยธรรมชาติ"
3. "มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนโดยรอบ"
14.15 – 14.45 น. พิธีปิดและมอบรางวัล
"มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ"
|